(คลิป) ส.ส.เพื่อไทยโคราชหนุน “ยลดา” ลงสมัคร "นายก อบจ." ในนามพรรคเพื่อไทย ขณะเจ้าตัวยันลงอิสระ

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ส.ส.ปื๊ด” แกนนำเพื่อไทยโคราช หนุน “เจ๊หน่อย ยลดา” ภรรยา “กำนันป้อ” บ้านใหญ่โคราช ลงสมัครนายก อบจ.นครราชสีมา ในนามพรรคเพื่อไทย ชี้เพื่อให้การเมืองโคราชทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติไร้รอยต่อ ทำเพื่อไทยโคราชเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เผย “ยลดา” ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยและยังยืนยันลงในนามกลุ่มอิสระ

วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวสนามเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา นางยลดา หวังศุภกิจโกศล หรือเจ๊หน่อย นายก อบจ.นครราชสีมา ภรรยาของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หรือกำนันป้อ บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยโคราช ได้ทำหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา ก่อนที่จะหมดวาระในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ พร้อมประกาศจะเดินหน้าลงสมัครรับการเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมาอีกสมัยในนามกลุ่มอิสระชื่อ “กลุ่มพัฒนาเมืองโคราช” จนทำให้เกิดกระแสข่าวลือว่าพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มกำนันป้อเริ่มมีรอยร้าวเกิดขึ้น และพรรคเพื่อไทยเตรียมที่จะส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา แข่งกับนางยลดา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น



ล่าสุดวันนี้ ที่สำนักงาน ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ส.ส.ปื๊ด หรือ นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า ตนก็มีการพบปะและพูดคุยกับนางยลดามาตลอด แต่เป็นการพูดคุยในเรื่องของการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน แม้กระทั่งตอนที่นางยลดาลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา เพื่อที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อีกสมัย ก็ไม่เคยได้ยินออกจากปากนางยลดาเลยว่าจะลงในนามพรรคอิสระ มีเพียงข่าวที่ออกมาตามสื่อต่างๆ เท่านั้น


ส่วนประเด็นที่นางยลดาลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ ก็อาจเป็นเรื่องของการถือวันที่มีเลขมงคล วันที่ 12 เดือน 12 หรืออาจเป็นเรื่องของระยะเวลา 180 วันก็ได้ เพราะตนไม่ได้พูดคุยสอบถามในเรื่องนี้เลย ทั้งนี้ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ตนอยากให้นางยลดาลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมาในนามพรรคเพื่อไทย เพราะหากลงสมัครในนามพรรค ส.ส.เขตพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ทั้งหมด 12 คน รวมทั้งรัฐมนตรีชาวโคราช 2 คน คือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ซึ่งเป็นลูกสาวของนางยลดา ก็พร้อมที่จะออกมาสนับสนุนอย่างเต็มที่แน่นอน

แต่ตอนนี้นางยลดายังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเลย ซึ่งการสมัครสมาชิกพรรคนั้นก็ไม่ยาก ทำแค่วันเดียวก็เสร็จ ดังนั้นอยากให้นางยลดารีบมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยโดยเร็วเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพราะตนก็อยากให้ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย เพื่อที่จะได้ทำให้การทำงานการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติทำงานอย่างไร้รอยต่อ และทำให้พรรคเพื่อไทยในโคราชมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นด้วย


ต่อคำถามที่ว่าหากนางยลดายืนยันที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา ในนามกลุ่มอิสระ พรรคเพื่อไทยจะส่งคนลงสมัครแข่งหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนเองและ ส.ส.ในพื้นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะการจะส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น ขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ถ้าจะให้ตนไปทาบทามนางยลดามาสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตนเองก็ไม่กล้าทาบทามอยู่แล้ว เพราะเราทำงานทางการเมืองเติบโตมาด้วยกันนับสิบปี ควรให้เกียรติในการตัดสินใจซึ่งกันและกันเสมอ

"ส่วนเรื่องที่หลายคนวิตกกลัวว่าจะเกิดความรุนแรงทางการเมืองนั้น ยืนยันว่าโคราชไม่มีความรุนแรงทางการเมืองแน่นอน เพราะในพื้นที่เราไม่มีผู้มีอิทธิพลทางการเมือง มีแต่บ้านใหญ่ที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงๆ เท่านั้น" นายอภิชากล่าวในตอนท้าย


ขณะที่ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงเหตุผลที่ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนได้ไปกราบขอพรพระอาจารย์มหาต่อ ธรรมรังษี ที่วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งท่านมหาต่อให้ศีลให้พรบอกว่าวันที่ 12 เดือน 12 ถือเป็นวันดี วันมงคล ประกอบกับที่ตนได้รับเลือกตั้งเข้ามาทำงานในตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาเกือบ 4 ปีเต็ม ไม่เคยหยุดทำงานแม้แต่วันเดียว ถึงจะเป็นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการก็ไม่เคยหยุดพัก ทำงานรับใช้ประชาชนมาโดยตลอด และการปฏิบัติภารกิจในหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาก็ได้ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณก็เป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย ยืนยันว่าการลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมาไม่มีนัยอะไรทั้งสิ้น

"ดังนั้น ช่วงวันเวลาที่เหลือของการบริหารงานในหน้าที่ก็ไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันจึงอยากใช้โอกาสนี้หยุดพักผ่อน จึงตัดสินใจยื่นขอลาออกต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และจะใช้ช่วงที่มีอยู่นี้หยุดพักผ่อนและจะเตรียมตัวในการลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาต่ออีกสมัยในนามอิสระ ในวันที่ 23-27 ธันวาคม 2567 ซึ่งการลงสมัครในนามอิสระสามารถทำงานประสานกับทุกฝ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือน 4 ปีที่ผ่านมาดิฉันก็ได้พิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นแล้ว" นางยลดากล่าว