ปราจีนบุรี - โฆษกตำรวจภูธรปราจีนบุรี แถลงความคืบหน้าคดีสังหาร ส.จ.โต้ง พฐ.เปรียบเทียบปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุแล้ว นัดสอบปากคำ "รองอุ๊-นายกตุ๋ย" พร้อมคนใกล้ชิด พยานแวดล้อมเพิ่มเติม ส่วนปืน 6 กระบอกรู้เจ้าของหมดแล้ว คาดใช้เวลาสักระยะ เหตุพบความเชื่อมโยงมากขึ้นขณะ รรท.ผบช.ภ.2 สั่งเร่งปราบปรามอาวุธปืนและกลุ่มผู้มีอิทธิพลรับการเลือกตั้ง อบจ. ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
เมื่อเวลา 16.10 น. วันนี้ (14 ธ.ค.) พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้แถลงถึงความคืบหน้าในคดียิง ส.จ.โต้ง เสียชีวิตภายในบ้านพักของนายก อบจ.ปราจีนบุรี ว่าเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืน 4 กระบอกจากเจ้าที่ตำรวจ 4 นาย ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ติดตาม ส.จ.โต้งในวันเกิดเหตุเพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนปืนที่พบในจุดเกิดเหตุแล้ว
ขณะเดียวกัน ในวันนี้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี ยังได้นัดสอบปากคำ นายกฤษฎ์ กษมพันธุ์ (รองอุ๊) รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี ในประเด็นที่ปรากฏในคลิปและข้อมูลต่างๆ ในที่เกิดเหตุ (ในฐานะพยาน)
และยังได้นัดสอบปากคำ ด.ต.ศิลปชัย วงษ์นิกร หรือนายกตุ๋ย นายก อบต.บางเดชะ ในฐานะพยานในวันเกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้อง จากนั้นพนักงานสอบสวนจะได้เร่งติดตามพยานคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด และติดตามวัตถุพยานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป
โดยในส่วนของประเด็นอาวุธปืนที่ใช้สังหาร ส.จ.โต้ง นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดอาวุธปืนในที่เกิดเหตุได้จำนวน 6 กระบอก และเมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่า อาวุธปืน canik 9 มม.เป็นปืนของนายกอล์ฟ ที่รับว่าเป็นผู้ลงยิง ขณะที่ปืนลูกซองเป็นของนายสุนทร วิลาวัลย์
ส่วนอาวุธปืนอีก 4 กระบอก ขณะนี้เจ้าที่ตำรวจทราบตัวเจ้าของแล้วแต่อยู่ในสำนวนคดี โดยยืนยันว่าอาวุธปืนทั้ง 4 กระบอกไม่ใช่อาวุธปืนที่ใช้สังหาร ส.จ.โต้ง
ขณะที่ประเด็นของพยานแวดล้อมในคดีที่มีเป็นจำนวนมากเจ้าที่ตำรวจจะทยอยเรียกมาสอบปากคำ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะ เนื่องจากเมื่อขยายผลทางคดีนี้ยิ่งพบความเชื่อมโยงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
“สำหรับบุคคลใกล้ชิดกับผู้ตาย เช่น ส.จ.จอย พี่ชายและน้องชาย เจ้าที่ตำรวจจะเรียกมาสอบปากคำด้วยเช่นกัน แต่คงต้องเป็นหลังจากวันที่ 17 ธ.ค.นี้ (หลังเสร็จงานศพ) ส่วนรถอัลพาร์ดที่มีการยึดมาตรวจสอบนั้นเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พฐ. จะได้ทำการตรวจสอบทั้งในตัวรถและนอกรถเพื่อหาลายนิ้วมือแฝงว่าผู้ใช้รถคันดังกล่าวเป็นใคร และมีการใช้รถไปที่ไหนบ้าง นอกจากนี้ ยังได้ตรวจหาร่องรอยวิถีกระสุน เพื่อไล่ไทม์ไลน์ว่ารถคันนี้เกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่”
โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ยังเผยอีกว่าหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้สั่งการให้เร่งปราบปรามอาวุธปืนและกลุ่มผู้มีอิทธิพลอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับปัญหาการเลือกตั้ง อบจ. ที่จะมีขึ้นอีกในอีก 3 เดือนข้างหน้า และจะมีการเปิดรับสมัครในวันที่ 23 ธ.ค.นี้อีกด้วย