เชียงใหม่-ผู้บัญชาการตำรวภูธภาค 5 พร้อมทหารและฝ่ายปกครองแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย 2 คดี ยึดของกลางยาบ้ารวมกว่า 7 ล้านเม็ด
วันนี้(14ธ.ค.67)ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5,พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงราย และทหาร มทบ.33 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 โดยคดีแรกในพื้นที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดจะทำการลักลอบส่งยาเสพติดโดยใช้รถยนต์เก๋ง โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ขข 5934 โดยใช้ผ่านเส้นทางด่านตรวจท่าก๊อ
ดังนั้นจึงได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจท่าก๊อ ตรวจสอบรถยนต์ที่มีลักษณะตามที่สายลับแจ้ง ต่อมาพบรถยนต์เก๋งตามที่สายลับแจ้งขับเข้ามายังด่านตรวจจึงเรียกให้หยุดรถแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบนายบุญธรรม เป็นผู้ขับขี่ และนายไชยรัตน์ นั่งโดยสารมาด้วย ขับมุ่งหน้าจาก จ.เชียงราย ไป จ.เชียงใหม่ ขณะทำการตรวจสอบทั้ง 2 คน มีอาการท่าทางกระวนกระวายมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงขอตรวจค้นโดยละเอียด ก่อนการทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ทั้ง 2 คน และยินยอมให้ตรวจค้นผลการตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถคันดังกล่าว จำนวน 5 แพ็ค ประมาณ 454,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมตัวทั้ง 2 คน พร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.แม่สรวย เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ส่วนคดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้รับการติดต่อให้มารับนำสิ่งของอ้างว่าเป็นพืชผลทางเกษตรจากพื้นที่ อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ต่อมาสายลับได้ติดต่อกับทางผู้ว่าจ้างในเรื่องการขนยาเสพติดดังกล่าว จากนั้นผู้จ้างวานได้แจ้งกับสายลับว่า ให้ไปรับยาเสพติด เพื่อนำไปส่งยังพื้นที่ จ.อยุธยา โดยให้สายลับติดต่อกับชายอีกคน เพื่อไปรับยาเสพติดจากชายคนดังกล่าวที่เตรียมไว้ให้ วางทิ้งไว้จุดทิ้งขยะ ป่าริมถนนโชตนา ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และสายลับได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด จึงได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณสถานที่ที่ได้รับแจ้งจากสายลับตามเวลาเกิดเหตุ
เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุได้ทำการตรวจสอบพื้นที่บริเวณโดยรอบถึงจุดที่ได้รับแจ้งจากสายลับ พบสิ่งของวางอยู่เป็นกองกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายต้องสงสัย จำนวน 34 กระสอบ รวม 6 ล้าน 8 แสนเม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจจึงได้ทำการตรวจยึดไว้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ได้สืบสวนขยายผลจนทราบที่อยู่ของกลุ่มลำเลียงในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 จึงได้ประสานงานร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ร่วมทำการขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาเพิ่ม จำนวน 1 คน ได้ที่บริเวณลานจอดรถสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ปตท. ที่อยู่ 40/1 ถ.เอเชีย ต.ตานิม อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 5 ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้นำบัญชาและข้อสั่งการของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดไม่ให้เข้าไปสู่พื้นที่ตอนในอย่างเข้มข้นและจริงจัง และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.67 – 13 ธ.ค.67 จำนวน 2,538 คดี คดียาเสพติดรายสำคัญ 19 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติด - ยาบ้า 10 ล้านเม็ดเศษ - ไอซ์ 1,384 กิโลกรัมเศษ - เฮโรอีน 143 กิโลกรัมเศษ - เคตามีน 622 กิโลกรัมเศษ - ฝิ่น 8 กิโลกรัมเศษ ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด ประมาณ 15 ล้านบาทเศษ