เชียงใหม่-ตำรวจเชียงใหม่รวบแล้ว2คนร้ายอ้างตัวเป็น จนท.ฝ่ายปกครองตรวจค้นร้านขายกัญชา แล้วปล้นเงินพร้อมทรัพย์สินรวมมูลค่าหลายแสนบาท พบที่แท้เป็นลูกจ้างของร้านที่มีปัญหาการเงิน จึงวางแผนและชักชวนลูกค้าที่เคยใช้บริการร่วมก่อเหตุ ขณะที่คนร้ายที่เหลืออีก3คน กำลังอยู่ระหว่างไล่ล่า โดยออกหมายจับทั้งหมดแล้ว
ความคืบหน้าคดีที่คนร้ายจำนวน4คนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบุกเข้าร้านขายกัญชาย่านสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วใช้กำลังจับตัวเจ้าของร้านพร้อมลูกน้องมัดมือมัดเท้าและใช้ถุงคลุมหัว จากนั้นบังคับเอารหัสให้โอนเงินจากบัญชีธนาคารและนำทรัพย์สินในร้านมูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 03.00น. วันที่12ธ.ค.67 นั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก โดยพ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย ได้สั่งการให้เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี โดยการนำตัวนายหรั่ง (นามสมมติ) ลูกจ้างของร้านมาสอบปากคำเบื้องต้นในฐานะผู้เสียหาย และพยาน พร้อมกับออกติดตามหาเบาะแสของคนร้ายโดยเฉพาะเส้นทางของการโอนเงินไปยังปลายทาง จนล่าสุดสามารถนำตัวคนร้ายมาได้แล้ว 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนายหรั่ง นั่นเอง
เมื่อเวลา 12.00น.วันนี้(13ธ.ค.67) ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีพร้อมกับเปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า คดีนี้ต้อชื่นชมการทำงานของเจ้าน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือกที่เร่งทำงานอย่างรวดเร็วก่อนที่กลุ่มคนร้ายเหล่านี้จะหลบหนีออกนอกพื้นที่ โดยพบว่าผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดมีด้วยกัน 5 คน และตัวการหลักที่วางแผนคือ นายหรั่ง ซึ่งเป็นลูกจ้างของร้าน ที่ทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวของร้านทั้งหมดทั้งเรื่องของทรัพย์สิน และจำนวนเงินของผู้เสียหาย รวมทั้งเส้นทางเข้าออก
โดยนายหรั่ง มีปัญหาเรื่องการเงินและต้องการหาเงินไปใช้ จึงได้ชักชวนคนร้ายอีก 4 คน ที่เคยเป็นลูกค้าของร้านและรู้จักกัน ร่วมวางแผนและก่อเหตุ ด้วยการตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทำทีเข้าขอตรวจค้น และจับตัวผู้เสียหาย และนายหรั่งมัดมือมัดเท้าก่อนบังคับให้สแกนลายนิ้วมือเปิดเครื่องโทรศัพท์ เอารหัสโมบายแบงกิ้งและสแกนใบหน้าเพื่อโอนเงินออกจากบัญชีไปยังบัญชีธนาคารปลายทางหลายแห่ง รวมเงินประมาณ 250,000 บาท นอกจากนี้แล้วยังเอาทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ รวมทั้งรถจักรยานยนต์อีก 4 คันของผู้เสียหายไปด้วย
ทั้งนี้หลังจากสอบปากคำนายหรั่งแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธหลายอย่าง จนเจ้าตัวรับสารภาพ รวมทั้งการติดตามแกะรอยจากเส้นทางการโอนเงินไปบัญชีต่างๆ จนทราบตัวคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุทั้ง 4 คน พร้อมทั้งของศาลออกหมายจับ ทั้ง 5 คนที่ร่วมก่อเหตุในข้อหาปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธในการก่อเหตุ และคืนที่ผ่านมาสามารถติดตามหนึ่งใน 4 ของคนที่เข้าปล้นได้แล้ว รวมทั้งได้เงินสดคืนมาจำนวนหนึ่ง และกำลังเร่งแกะรอยติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 3 คนที่เหลือมาดำเนินคดี.