xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เชียงใหม่เร่งล่า4คนร้ายสุดเหิมอ้างตัวเป็น จนท.ปกครองบุกปล้นร้านกัญชากลางเมืองกวาดเงินและทรัพย์สินกว่า5แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ – ตำรวจช้างเผือก เชียงใหม่ เร่งแกะรอยล่าตัว 4 คนร้ายสุดเหิม อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าตรวจร้านขายกัญชากลางเมืองเชียงใหม่ ก่อนจับเจ้าของร้านและลูกน้องมัดมือมัดเท้าใช้ถุงคลุมหัว บังคับบอกรหัสแอปพลิเคชันธนาคารแล้วโอนเงินจากมือถือ พร้อมกวดทรัพย์สินอีกเพียบรวมมูลค่าทั้งสินกว่า 500,000 บาท หลบหนีไป


วันนี้(13 ธ.ค.67) รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวน เร่งรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามจับกุมคนร้าย หลังจากที่ได้รับแจ้งจากนายไทด์ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ชาวเชียงใหม่ เจ้าของร้านขายกัญชา ย่านสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ ว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 12 ธ.ค.67 ถูกกลุ่มคนร้ายจำนวน 4 คนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ถือเหล็กแหลม 2 แท่ง บุกเข้ามาไปในร้านแล้วจับตัวเองพร้อมลูกน้องมัดมือมัดเท้า และใช้ถุงกระสอบคลุมหัวก่อนปล้นเอาทรัพย์สิน ทั้งเงินในบัญชี 300,000บาท โทรศัพท์ไอโฟน 16 โปรแม็ก, ไอแพด 2 เครื่อง,รถจักรยานยนต์ 4 คัน ,พระเครื่อง และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ จากนั้นได้หลบหนีไป

โดยนายไทด์ เปิดเผยว่า ตัวเองเปิดร้านขายกัญชาสมุนไพร ตั้งอยู่ที่ซอยสันติสุข ย่านสันติธรรม ในตัวเมือง ในช่วงเกิดแหตุกำลังจะปิดร้าน ปรากกฎว่าได้มีกลุ่มคนสวมชุดดำจำนวน 4 คน บุกเข้าไปในร้าน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาตรวจสอบการกระทำความผิดตามกฎหมาย จากนั้นได้จับตัวเองและลูกน้องที่เป็นผู้ชายแล้วใช้เชือกมัดมือมัดเท้าและเอาถุงคลุมหัว พร้อมบังคับให้บอกรหัสต่างๆ ในโทรศัพท์ ทั้งรหัสปลดล็อคเครื่องและบัญชีธนาคาร แล้วโอนเงินออกไปจากบัญชีธนาคารกว่า3แสนบาท และกวาดเอาทรัพย์สินอื่นๆภายในร้าน และรถจักรยานยนต์ 4คัน รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท ก่อนที่คนร้ายจะแยกย้ายกันหลบหนีไป

ด้านพ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวนและได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามจุดต่างๆ ส่วนกล้องภายในร้านและหน้าร้านที่เกิดเหตุนั้นพบว่าถูกถอดปลั๊ก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบหมายเลขบัญชีที่ทางนายไทด์อ้างว่าคนร้ายบังคับให้โอนเงินผ่านแอป และเร่งตามตัวลูกจ้าง 3 คน ที่ผู้เสียหายอ้างว่าอยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำด้วยเนื่องจากตำรวจยังสงสัยอีกหลายประเด็น อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน










กำลังโหลดความคิดเห็น