สระแก้ว - ตม.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมทหารพราน 1201 และตำรวจท่องเที่ยวดักรวบหนุ่มเมืองอรัญฯ ลอบขน 4 แรงงานกัมพูชาดอดเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติเตรียมพาส่งสถานีขนส่งสระแก้ว คิดค่าหัวคนละ 50 บาท
วันนี้ (12 ธ.ค.) พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อมรศักดิ์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว ว่าที่ พ.ต.ท.พฤกษ์ โชติพฤกษ์ชูกุล สว.ตม.สระแก้ว ประสานความร่วมมือ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย ทพ.1201 ชค.ทพ.12 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12) และตำรวจท่องเที่ยวสระแก้ว สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.สระแก้ว เฝ้าตรวจและดักสกัดบนถนนศรีเพ็ญ (สก.3366) ซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดน หน้าวัดประตูชัยอรัญเขต ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
หลังสืบทราบว่าจะมีชาวกัมพูชาลักลอบเข้าราชอาณาจักรไทยบริเวณช่องทางธรรมชาติริมชายแดน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
กระทั่งพบรถเก๋งต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ชณ 4856 กรุงเทพมหานคร ขับมาจากริมชายแดนช่องธรรมชาติอย่างรวดเร็ว จึงแสดงตัวพร้อมตั้งเครื่องกีดขวางสกัดรถคันดังกล่าว ซึ่งมี นายพันธ์ชิต ชูจันทร์ อายุ 52 ปี ชาวอรัญประเทศ เป็นคนขับ
ภายในรถพบชายชาวกัมพูชาจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายเคส โฮม อายุ 45 ปี นายเหมา เอี่ยม อายุ 26 ปี นายเต็ง เอี่ยม อายุ 24 ปี และนายโดม เอียม อายุ 20 ปี ซึ่งทั้งหมดรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้เคยทำงานอยู่ในประเทศไทย และมีหนังสือเดินทางถูกต้อง แต่เนื่องจากมีความจำเป็นต้องการเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวในฝั่งกัมพูชา แต่ไม่อยากแสตมป์พาสปอร์ต จึงได้ใช้วิธีลักลอบข้ามแดนทางช่องธรรมชาติออกไปกัมพูชา
เมื่อเสร็จธุระจึงลักลอบข้ามกลับเข้ามาฝั่งไทย โดยเสียค่าผ่านทางให้นายหน้าชาวกัมพูชาคนละ 1,500 บาท และเมื่อถึงฝั่งไทยได้พบ นายพันธ์ชิต ที่จอดรถรออยู่ และอาสาจะพาไปส่งที่สถานีขนส่ง โดยคิดค่านำพาคนละ 50 บาท รวมเป็นเงิน 200 บาท แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา นายพันธ์ชิต “ช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าว ซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
และแจ้งข้อหา 4 ชาวกัมพูชา “เป็นบุคคลต่างด้าว เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งมิใช่ช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลาตามที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา” ก่อนคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ดำเนินคดีตามกฎหมาย
