ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – เถ้าแก่ SMEs โคราชเฮรับ! “คุณสู้ เราช่วย” พักหนี้ 3 ปี ประธาน BIZ CLUB ชี้ช่วยต่อชีวิตธุรกิจ เอสเอ็มอีทั่วประเทศ คาดเริ่มฟื้นตัวให้เห็นในไตรมาสแรกของปี’68 แนะรัฐออกมาตรการกีดกันสินค้าจีนควบคู่ทะลักเข้าไทย เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน
วันนี้ ( 12 ธ.ค.) ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี( ครม.) เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย และผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางอื่นๆ ของสถาบันการเงิน และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ที่เป็นหนี้เสียระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับถึงวันที่ 31 ต.ค. 67 ภายใต้ชื่อโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” โดยในส่วนของหนี้บ้าน หนี้รถ และหนี้ SMEs จะเป็นการพักชำระดอกเบี้ยให้ไม่เกิน 3 ปี ซึ่งลูกหนี้ต้องมีหนี้เสียในวงเงินไม่เกินดังนี้ 1.หนี้บ้านไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย 2.หนี้รถยนต์ไม่เกิน 8 แสนบาทต่อราย และ 3.หนี้ SMEs ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ลูกหนี้ลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ https://www.bot.or.th/khunsoo ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 67 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 28 ก.พ.68 นั้น
ล่าสุด นางสาวฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์ ประธานเครือข่ายธุรกิจ BIZ CLUB นครราชสีมา และรองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า โครงการพักชำระหนี้ที่ทางรัฐบาลออกมานี้ ภายใต้ชื่อ “คุณสู้ เราช่วย” ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมากสำหรับลูกหนี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ซึ่งปัจจุบันนี้ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อยู่กว่า 30,000 ราย และอยู่ในเครือข่ายธุรกิจ BIZ CLUB จำนวนมาก หลายคนประสบปัญหามาตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 มีการปิดกิจการไปก็มาก ส่วนที่เหลืออยู่นี้ก็ประสบกับปัญหาการชำระหนี้กว่า 80% เนื่องจากรัฐบาล เพิ่งจะเข้ามาบริหารประเทศไม่นาน
ที่ผ่านมานโยบายต่างๆ ที่จะมาช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ยังไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พยายามประคับประคองเพื่อรอนโยบายการช่วยเหลือจากรัฐบาล ทั้งนี้ผู้ประกอบการไม่ได้อยากจะเบี้ยวชำระหนี้ แต่ด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ศักยภาพในการชำระหนี้ลดลงต่อเนื่อง
โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” นี้ สามารถทำให้ผู้ประกอบการลืมตาอ้าปากได้บ้าง โดยเป็นการผ่อนชำระดอกเบี้ย 3 ปี ขณะเดียวกันก็ชำระตัดยอดเงินต้นได้ด้วย ทำให้มีเงินเหลือที่จะนำไปต่อยอดธุรกิจได้ในช่วง 3 ปีนี้ เพราะหากผู้ประกอบการค้างชำระหนี้จนติดเครดิตบูโรกันจำนวนมาก จะทำให้เศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศเดินหน้าไปต่อไม่ได้เลย ดังนั้นเมื่อผู้ประกอบการลดภาระการชำระดอกเบี้ย 3 ปีไปได้ ธุรกิจ SMEs ทั่วประเทศ ก็จะเริ่มฟื้นตัวให้เห็นในไตรมาสแรกของปี 2568 แน่นอน
ถึงอย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” นี้ เป็นเพียงการช่วยเหลือลูกหนี้และผู้ประกอบการในระยะสั้นเพียง 3 ปีเท่านั้น แต่ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ผู้ประกอบการ SMEs ยังต้องเจอการแข่งขันที่สูงมาก จากสินค้าประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศจีน ที่ไหลทะลักเข้ามาอย่างหนัก ซึ่งเขามีต้นทุนที่ต่ำและเทคโนโลยีการผลิตสูงกว่าเรา ทำให้ผู้ประกอบการไทยลดราคาสู้ไม่ไหว
ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลออกมาตรการกีดกันสินค้าจากประเทศจีนควบคู่กันไปด้วย โดยอาจตั้งกำแพงภาษี เพื่อให้สินค้าไทยสามารถสู้ราคาได้ เพราะถ้าทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยแข็งแรงแล้ว รัฐบาลก็จะสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ผู้ประกอบการไทยก็จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วย