ศูนย์ข่าวศรีราชา -กลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP) จ.ชลบุรี นำแรงงานกว่าพันคนรวมตัวหน้าสถานทูตเกาหลี วอนจี้ผู้รับเหมากลุ่มหลักที่นำโดยบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. UJV จ่ายเงินค้างค่าแรงกว่า 6,000 ล้านบาทในโครงการโรงกลั่นน้ำมันไทย
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (12 ธ.ค.) กลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP) จ.ชลบุรี ได้นำแรงงานกว่าพันคน เดินทางมารวมตัวกันที่ด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นหนังสือต่อเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย เรียกร้องให้แก้ปัญหาการค้างชำระค่าจ้างที่เกิดขึ้นจากผู้รับเหมากลุ่มหลักซึ่งนำโดยบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd.ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในประเทศเกาหลี
โดยมี นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ กรรมการบริหาร บริษัท ศรีราชาคนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เป็นตัวแทนยื่นหนังสือต่อตัวแทนสถานทูตเกาหลี ประจำประเทศไทย ซึ่งในท้ายจดหมายยังได้แนบรายชื่อบริษัทผู้รับเหมาช่วงกว่า 100 บริษัท ที่ได้รับผลกระทบจากการค้างชำระเงินค่าแรง ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนงานมากกว่า 10,000 คน และอาจนำไปสู่วิกฤตทางการเงินที่ยืดเยื้อ
ขณะที่เนื้อความในจดหมายระบุว่า กลุ่มผู้รับเหมาช่วงที่รวมตัวชุมนุมในครั้งนี้เป็นผู้รับเหมาช่วงภายใต้การร่วมทุนของ (Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd. และ Saipem Singapore Pte., Ltd.) (ผู้รับเหมา) หรือ UJV สำหรับโครงการก่อสร้างของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ซึ่งปัญหาการค้างชำระค่าจ้างที่เกิดจากผู้รับเหมากลุ่มหลักที่นำโดยบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd.กำลังส่งผลกระทบต่อคนงานหลายพันคนที่กำลังเผชิญกับความยากจน จึงวิตกกังวลว่าอาจนำไปสู่ความไม่สงบในสังคม และอัตราการเกิดอาชญากรรมที่สูงขึ้น
ที่สำคัญการกระทำของผู้รับเหมากลุ่มหลักที่นำโดยบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. ได้สร้างความเสียหายทางชื่อเสียงให้เจ้าของโครงการ และยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศทางธุรกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อโครงการที่มีรัฐเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
และยังทำให้เจ้าของโครงการสูญเสียผลตอบแทนที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากความล่าช้าของโครงการ
เนื้อหาในจดหมายยังระบุอีกว่า บริษัทย่อยของ Samsung Corporation ที่มีชื่อเสียงระดับโลกถือเป็นตัวแทนของสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้รับเหมาช่วงต้องทนทุกข์กับค่าจ้างที่ค้างชำระ อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศเกาหลี และความสัมพันธ์ทางทวิภาคีกับประเทศไทย
โดยได้เรียกร้องให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นดังนี้
1.เข้าแทรกแซงกับบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. เพื่อเร่งรัดการชำระค่าจ้างที่ค้างชำระให้แก่ผู้รับเหมาช่วงทั้งหมดรวมเป็นเงินกว่า 6,000 ล้านบาท
2.กระตุ้นให้บริษัท Samsung Corporation ใช้อำนาจที่มีในบริษัทสาขาเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการชำระเงินให้แก่ผู้รับเหมาช่วงทุกบริษัทอย่างครบถ้วนและตรงเวลา
3.อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างผู้รับเหมาช่วงที่ได้รับผลกระทบและบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. เพื่อแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีการที่เป็นมิตร
4.กระตุ้นให้บริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. ทบทวนและแก้ไขข้อกำหนดในสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่สมเหตุสมผลเพื่อให้แก้ไขปัญหาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด