พิษณุโลก - เผยนาทีตำรวจทางหลวงปฏิบัติการสุดระทึก..ไล่ล่าหนุ่มชลบุรี ทำทีเป็นลูกค้าจะซื้อปาเจโรเต็นท์รถอุตรดิตถ์ ลองรถเสร็จกลับบึ่งหนีล่องลงพิษณุโลก-เชิดค่าน้ำมันปั๊มซ้ำ ตร.ควบฉลามบกชนสกัดยังไม่ยอม-คว้ามีดหวังแทงตำรวจบาดเจ็บไป 2 นาย ก่อนเจอ M16 ยิงสวนกระสุนเจาะขาจนสิ้นฤทธิ์
บ่ายวันนี้ (10 ธ.ค.) ตำรวจทางหลวง 3 กก.5 บก.ทล. (หน่วยบริการวัดโบสถ์) จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีขาว ทะเบียน กท 8437 อุตรดิตถ์ ขับแหกด่านบริเวณจุดตรวจท่างาม อ.วัดโบสถ์ จึงนำกำลังตำรวจ 4 นาย พร้อมรถตำรวจทางหลวง 2 คัน ขับไล่ล่าคนร้ายรายนี้
เมื่อเจ้าหน้าที่ขับรถไล่ล่าไปถึงบริเวณใกล้เคียงยูเทิร์นสี่แยกสกัดน้ำมัน ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก ได้ตัดสินใจขับพุ่งชนจนรถของคนร้ายเสียหลักปีนเกาะกลางถนนช่วงหน้ารถเสียหายพังยับเยิน
ต่อมาพบว่าคนร้ายที่ขับมาคนเดียว ทราบชื่อภายหลังคือ นายกรกฎ สุริยา อายุ 31 ปี ชาว จ.ชลบุรี ลงมาจากรถแล้วถือมีดพกเดินตรงปรี่เข้ามาแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 2 นาย คือ ด.ต.ประทีป มีอุดร ผบ.หมู่ ส.ทล.3 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บที่หน้าท้องซ้าย 1 แผล ขาซ้าย 1 แผล และ จ.ส.ต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 บก.ทล ได้รับบาดเจ็บที่หน้าท้องขวา 1 แผล และขาซ้าย 1 แผล
หลังจากนั้นก็เกิดชุลมุนแย่งอาวุธมีด สักพัก ด.ต.ประทีป มีอุดร จึงคว้าอาวุธปืน M16 ในรถมายิงระงับเหตุจำนวน 2 นัด กระสุนถูกคนร้ายที่บริเวณหว่างขา และมือข้างขวา จนนายกรกฎสิ้นฤทธิ์ ถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
ส่วนตำรวจที่บาดเจ็บ 2 นาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพิษณุโลกฮอสพิทอล ล่าสุดขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
นายพชรพงษ์ ณรงค์ชัย อายุ 46 ปี เจ้าของรถที่ตามมาดูที่เกิดเหตุให้การต่อตำรวจว่า รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีขาว ทะเบียน กท 8437 อุตรดิตถ์ เป็นรถฝากขายเต็นท์ คนร้ายทำทีมาขอดูและขอลองขับ โดยนั่งกับพนักงานขายรถไปกัน 2 คน เมื่อลองรถเสร็จจนเป็นที่พอใจแล้วจึงจะทำสัญญาซื้อขาย
แต่พอกลับมาถึงเต็นท์แล้วพนักงานก็ลงจากรถ คนร้ายกลับเร่งเครื่องขับหลบหนีไปในทันที และไปแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งแต่ก็ไม่จ่ายเงินอีก ก่อนที่ทางเต็นท์จะแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และวิทยุสกัดจับ กระทั่งหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ก่อนจะจนมุมได้ทำร้ายตำรวจบาดเจ็บและถูกยิงดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจจะได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาความผิดฐานลักทรัพย์ และข้อหาฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่เอาไว้ก่อน พร้อมกับจัดกำลังตำรวจดูแลที่โรงพยาบาลตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนี ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป