เพชรบูรณ์ - ตร.คาดน้ำล้างบ่อ+หัวเชื้อหมักปลาร้าทำเกิดก๊าซพิษ คร่าชีวิตทั้งคนงานและหลานเขยเจ้าของโรงงานปลาร้าฯหล่มสักดับคาก้นบ่อหลังลงล้างรอรับปลาใหม่ 5 ศพ พร้อมส่งตัวอย่างเลือดตรวจพิสูจน์สารพิษให้ชัด
ความคืบหน้ากรณีพบคนงานโรงงานปลาร้า พื้นที่หมู่ 5 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เสียชีวิตปริศนาภายในบ่อน้ำเสียของโรงงาน รวม 5 ราย เมื่อเย็นวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สาระนัย คงเมือง ผบก.ภ.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.รัง ดาวดึงส์ ผกก.สภ.หล่มสัก หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูหล่มสัก แพทย์หญิง จุฑามาศ อ่วมจ้อย แพทย์เวรโรงพยาบาลหล่มสัก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตปลาร้าชั้นเดียวหลังคาสังกะสีลักษณะอับทึบไม่ระบายอากาศ ภายในโรงงานมีบ่อหมักปลาร้าและโอ่งหมัก-ปลาร้าบรรจุปี๊บจำนวนมาก บริเวณด้านในสุดฝั่งซ้ายห้องหมักปลาร้า มีบ่อปูนสำหรับหมักปลาร้าขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร
บริเวณก้นบ่อปูนที่อยู่ในห้องหมักปลาร้าพบร่างผู้เสียชีวิต 5 ศพ ทราบชื่อต่อมาคือ 1.นายหลำ เรืองน้อย อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 6 ต.วัดป่า อ.หล่มสัก 2.นายเอือก สมกำลัง อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 6 ต.วัดป่า อ.หล่มสัก (มีประวัติเป็นผู้ป่วยโรคหอบหืด) 3.นายจักกฤษ เสนานุช อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 16 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก 4.นายศุภกิจ ชาติเชื้อ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 345 หมู่ 16 ต.น้ำชุน 5.นายกุลชาติ อำนวยมงคลพร อายุ 41 ปี เป็นหลานเขยของเจ้าของโรงงานผลิตปลาร้า
หลังนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาแพทย์ชันสูตรเบื้องต้นระบุผู้ตายขาดอากาศหายใจลักษณะคล้ายกับการเสียชีวิตของรายอื่นๆ ในบ่อเกรอะที่จะมีก๊าซสะสมปริมาณสูง ซึ่งได้นำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์และนำเลือดของผู้ตายส่งไปตรวจหาสารพิษในกระแสเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจที่กรุงเทพฯ เพื่อระบุได้อย่างชัดเจน
นายวินัย ศรีวิไล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 2 ต.ปากดุก อ.หล่มสัก ซึ่งเป็นผู้ที่พบศพคนแรก เล่าว่า โรงงานแห่งนี้มีพนักงานรวมตนเองด้วย 6 คน และมีนายอดิศักดิ์ สุทธิประภา อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1 หมู่ 7 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสักเป็นพนักงานขับรถส่งของ ช่วงเช้าตนเองและนายอดิศักดิ์ได้นำปลาร้าจากโรงงานขึ้นรถปิกอัพไปส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดเลย
ส่วนผู้ตายที่เป็นคนงานอีก 4 คน ประกอบด้วย นายหลำ เรืองน้อย, นายเอือก สมกำลัง, นายจักกฤษ เสนานุช, นายศุภกิจ ชาติเชื้อ อยู่โรงงานและวันนี้กำลังช่วยกันล้างบ่อหมักปลาร้าเตรียมรับปลาที่จะมาส่งในวันรุ่งขึ้น (10 ธ.ค.) เพื่อทำการหมักในบ่อหมักดังกล่าว
ตกเย็นช่วงเวลา 16.30 น. ตนทั้งสองได้เดินทางกลับมาที่โรงงานก็ไม่พบใครหรือได้ยินเสียงใคร จึงตะโกนเรียกเพื่อนคนงานแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงได้เดินเข้าไปในห้องหมักปลาร้าและใช้ไฟจากโทรศัพท์มือถือส่อง จนพบร่างของเพื่อนคนงานและนายกุลชาติ อำนวยมงคลพร อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นหลานเขยของเจ้าของโรงงานผลิตปลาร้านอนแน่นิ่งอยู่ก้นบ่อ จึงได้ไปเขย่าร่างของนายหลำพบว่าไม่ไหวติงแล้ว ก็รีบออกมาโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
สอบถามนางบุญนะ ฟักทอง อายุ 78 ปี ภรรยาของนายหลำ เรืองน้อย หนึ่งในผู้ตาย เปิดเผยว่า สามีทำงานที่โรงงานแห่งนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว ปกติจะทำงานช่วงเช้าและกลับบ้านประมาณ 17.00 น. แต่วันนี้กลับไม่พบว่าผู้ตายกลับบ้านจึงได้ออกมาตามหาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อทราบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว
พล.ต.ต.สาระนัย คงเมือง ผบก.ภ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าคนงานทั้ง 4 คนได้ช่วยกันล้างทำความสะอาดบ่อแต่น้ำที่ล้างผสมกับหัวเชื้อปลาร้าที่ตกค้างได้เกิดก๊าซพิษรุนแรงจนหมดสติ ส่วนนายกุลชาติ อำนวยมงคลพร ซึ่งเป็นหลานเขยของเจ้าของโรงงานผลิตปลาร้าอาจเข้ามาตามและพบคนงานหมดสติจึงพยายามเข้าช่วยเหลือก่อนหมดสติตามไปด้วยและเสียชีวิตพร้อมคนงานรวม 5 ศพ
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกาย คาดว่าจะเสียชีวิตจากการล้างบ่อหมักปลาร้า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่งศพให้แพทย์ผ่าพิสูจน์และระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป