กำแพงเพชร - วัดแอลกอฮอล์ได้ 147 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์..สาวเมืองกล้วยไข่ วัย 33 พาเด็กแข่งบอลขณะที่ตัวเองนั่งดื่มไปด้วยเชียร์ไปด้วย พอแข่งชนะเลิศเสร็จขับกระบะพาเด็กๆ กลับบ้าน รถเสียหลักแหกโค้งพลิกคว่ำข้างทาง เทกระจาดเด็กนั่งท้ายกระบะร่างกระเด็นฟาดตอม่อเสาไฟดับคาที่ 2 ราย สาหัส 4 บาดเจ็บมีบาดแผลตามตัวอีก 7 รวมคนขับเป็น 13 คน
พ.ต.ท.อาวุธ เกิดยินดี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งเหตุรถกระบะประสบอุบัติเหตุที่ถนนสายปากดง-บ้านดงตาจันทร์ หมู่ 10 ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมืองกำแพงเพชร เย็นวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครกู้ชีพและกู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุพบร่องรอยที่รถตกถนนหญ้าราบเป็นทางยาว 30 เมตร ก่อนไปพลิกตะแคงอยู่ในป่าละเมาะข้างทาง และพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ติดกับตอม่อเสาไฟฟ้า 2 ราย ประกอบด้วย ด.ช.บุญญฤทธิ์ เพรียกสิกรรม อายุ 14 ปี และ นายมาร์ค ผุดผ่อง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 9 ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ทั้ง 2 คนเป็นนักฟุตบอล โดย ด.ช.บุญญฤทธิ์เป็นนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม
ส่วนรถกระบะคันเกิดเหตุเป็นรถแบบแค็บ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน บร 413 กำแพงเพชร ที่พลิกตะแคงอยู่ต้องใช้รถมาดึงขึ้น สภาพรถด้านหน้าพังเสียหาย ด้านขวาฟาดกับตอม่อเสาไฟฟ้าพังยับเยิน คนขับชื่อนางกรรณิการ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้าน ต.วังทอง อ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับบาดเจ็บที่ขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วย จากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบว่าสูงถึง 147 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ด้านแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร ต้องรับตัวคนเจ็บไว้รักษาอย่างชุลมุน เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามตัวอีก 7 ราย รวมผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งสิ้น 13 ราย
จากการสอบถามเด็กที่ไปด้วยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเปิดเผยว่า พวกตนไปแข่งขันฟุตบอลดงตาจันทร์คัพ เป็นฟุตบอลแบบ 7 คน ซึ่งระหว่างที่เด็กๆ กำลังเล่นฟุตบอลกัน โชเฟอร์ก็นั่งดื่มสุราไปด้วยและเชียร์ไปด้วย จบการแข่งขันทีมของพวกตนชนะเลิศจึงพากันเดินทางกลับ โดยนั่งมาในแค็บ 5 คน นั่งอยู่กระบะหลัง 8 คน คนขับขับรถมาเร็วพอสมควร เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งรถได้เสียหลักแหกโค้งพุ่งลงไปข้างทาง ทำให้เพื่อนๆ ที่นั่งอยู่กระบะท้ายกระเด็นออกจากกระบะ โดยเฉพาะเพื่อนที่เสียชีวิตทั้ง 2 รายกระเด็นไปอัดกับตอม่อเสาไฟฟ้าจนเสียชีวิตคาที่
ที่หน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลกำแพงเพชรมีผู้ปกครองและญาติของเด็กๆ มารอเฝ้าดูอาการกันจำนวนมากจนเต็มหน้าห้องฉุกเฉิน โดยเฉพาะญาติๆ ของ ด.ช.บุญฤทธิ์ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ได้ด่าทอขอดูหน้าคนขับซึ่งอยู่ในห้องฉุกเฉิน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนขับไปเอกซเรย์ ญาติๆ คนตายเห็นได้วิ่งไปด่าทอจนตำรวจต้องกันไว้ พร้อมวิทยุขอกำลังมาเสริมนับ 10 นายเพื่อกันตัวคนขับเข้าไปพบแพทย์อีกครั้ง
ญาติคนตายได้เดินตามด่าทอไปตลอดทางเพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาหลบไปจากโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายกับญาติๆ คนตายว่าต้องให้การรักษาตามที่แพทย์สั่ง หลังจากนั้นก็จะพาตัวไปสถานีตำรวจให้ร้อยเวรทำการสอบสวน ไม่ได้พาหลบหนีไปไหนเพราะคนขับต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ญาติๆ คนตายก็ยังคงปักหลักรอให้คนขับออกมาจากห้องฉุกเฉินและยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวางแผนนำตัวคนขับออกทางประตูข้าง เพราะญาติๆ คนตายรออยู่เต็มหน้าห้องฉุกเฉิน โดยให้รถตำรวจมาจอดรออยู่อีกด้านหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้จัดกำลังคุ้มกันตัวคนขับไปขึ้นรถ แต่ว่าญาติๆ คนตายเห็นพอดีจึงพากันวิ่งมาดักรอ พร้อมกับส่งเสียงด่าทอและกรูกันเข้าไปรุม เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักกว่าที่จะนำตัวคนขับขึ้นรถหลบออกจากโรงพยาบาลไปได้ ซึ่งญาติๆ คนตายยังวิ่งตามทุบรถและด่าทอตามรถไปด้วย
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 2 ราย ประกอบด้วย 1. ด.ช.บุญญฤทธิ์ เพรียกสิกรรม 2. นายมาร์ค ผุดผ่อง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย 1. นางกรรณิการ์ แว่นศิลา อายุ 33 ปี คนขับ 2. น.ส.สุชานันท์ อายุ 15 ปี 3.ด.ช.ชุติพงษ์ ศรอี่ยม อายุ 14 ปี 4. ด.ญ.นัชธินันท์ ทิพย์ไชยธนกร อายุ 14 ปี 5. ด.ช.ธีรกร แพงดา อายุ 14 ปี 6. ด.ช.กฤติณ ทองมหา อายุ 14 ปี 7. นายณัฐวุฒิ วรรณวงศ์ อายุ 15 ปี 8. ด.ช.สงกานต์ วุฒิมา อายุ 14 ปี 9. ด.ช.จักรพงษ์ พูนเพิ่ม อายุ 14 ปี ที่เหลือยังไม่ระบุชื่อ โดยเด็กๆทั้งหมดรวมตัวกันมาจากโรงเรียนตั้งทีมฟุตบอลมาแข่งขัน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.3 และ ม.4