หากย้อนไปเมื่อกว่า 20 ปีก่อน โรงแรมเกาะช้างแกรนด์ลากูน่า (Koh Chang Grand Lagoona) ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่พักยอดนิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก ที่เกิดจากการลงทุนของ นายโอฬาร อัศวฤทธิกุล นักลงทุนชาวเพชรบุรี ที่ประกอบธุรกิจอยู่ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาเมื่อกว่า 40 ปีก่อน
แต่เมื่อสถานการณ์ภายในประเทศกัมพูชา มีความน่าไว้วางใจจึงได้ถอนการลงทุนและหันมาซื้อที่ดินบ้านบางเบ้า เพื่อก่อสร้างโรงแรมเรือ 7 ชั้น ที่มีห้องพักประมาณ 200 ห้อง รองรับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ บริเวณหาดคลองกลอย อ.เกาะช้าง จ.ตราด ในปี 2535 และได้กลายเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว
สุดท้ายเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในช่วง 10 ปีให้หลัง โรงแรมแห่งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารอยู่หลายครั้ง ประกอบกับเคยมีผู้ที่พลัดตกจากชั้น 7 ของโรงแรมจนเสียชีวิตจนเกิดเรื่องเล่าขานถึงความน่ากลัวและความหลอนของโรงแรมแห่งนี้ ทำให้ นายโอฬาร ต้องตัดสินใจประกาศขายโรงแรม ในราคากว่า 1,000 ล้านบาท แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการซื้อขายอย่างเป็นทางการ
และแม้โรงแรมแห่งนี้จะปิดให้บริการ แต่เรื่องราวเล่าขานแบบปากต่อปากกลับยิ่งสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ที่ชื่นชอบการได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสความหลอนของสถานที่ต่างๆ นี้ จนทำให้ในช่วง 1-2 ปีหลังปิดบริการมักมีผู้ที่แอบเข้าไปถ่ายภาพบรรยากาศสุดหลอนภายในโรงแรมออกเผยแพร่ในโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง
ทำให้ผู้บริหารโรงแรมเกิดไอเดียเก๋ สร้างจุดขายดังกล่าวให้เป็นแหล่งรายได้ภายใต้โครงการ “เปิดประสบการณ์สุดหลอนจ่าย 150 บาท ทัวร์โรงแรมเรือร้าง 7 ชั้น” จนสามารถดึงดูดความสนใจและกลายเป็นไวรัลใหม่ทางการท่องเที่ยวของ จ.ตราด ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน
และเจ้าของโครงการได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมโรงแรมเรือสำราญ โดยเก็บค่าเข้าชมเป็น 2 ประเภท คือ หากเข้าชมพื้นที่โครงการ Koh Chang Grand Lagoona หรือเข้ามาพักผ่อนบริเวณชายหาดของโครงการ จะคิดค่าเข้าชมในราคา 100 บาทต่อคน
แต่หากต้องการเข้าชมโรงแรมเรือร้าง 7 ชั้น จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 50 บาท และสามารถเข้าชมได้ไม่จำกัดเวลาในทุกชั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความน่าสนใจของโรงแรม จนทำให้ในทุกช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนเข้ามาสัมผัสบรรยากาศความหลอนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากการเข้าสำรวจพื้นที่ภายในโรงแรมของผู้สื่อข่าว ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 ธ.ค.2567 พบ โรงแรมเรือร้าง หรือที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ พากันเรียกขานว่า “ghost ship” หรือเรือผี นั้นได้แบ่งพื้นที่ชั้น 1-2 เป็นห้องประชุมและพื้นที่พนักงาน
ส่วนชั้นที่ 3-5 เป็นห้องพักประมาณ 200 ห้องซึ่งบางห้องถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา และบางห้องที่ถูกเปิดทิ้งไว้พบว่าภายในห้องยังมีทีวี ตู้เย็น น้ำดื่ม ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัวและเครื่องเล่นในสภาพเดิม และชั้น 6-7 เป็นภัตตาคาร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกห้องและทุกชั้น
ขณะที่การเดินทางมาสถานที่แห่งนี้ เริ่มต้นจากท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวสับปะรด ต.เกาะช้าง ให้เลี้ยวขวาขับรถตามทางไปเรื่อยๆ ประมาณ 27 กิโลเมตร จึงจะพบกับจุดหมายปลายทางคือ โครงการ Koh Chang Grand Lagoona ซึ่งเป็นโรงแรมสุดท้ายของเกาะช้างฝั่งขวา
และแม้ในช่วงบ่ายวันนี้ (3 ธ.ค.) จะเกิดข่าวเศร้าเรื่องการเกิดเพลิงไหม้ภายในตัวโรงแรม และยังไม่มีที่ท่าว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เนื่องตัวโรงแรมบางส่วนที่เป็นไม้คือเชื้อเพลิงอย่างดี และสุดท้ายคงต้องปล่อยให้โรงแรงแห่งนี้ถูกไฟไหม้วอดทั้งหมดในระยะเวลา 3 วัน
แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้คนที่เคยผ่านเข้าไปใช้บริการในโรงแรมแห่งนี้ รวมทั้งคนในพื้นที่ืั้อยากรู้คำตอบมากที่สุดคือ สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ว่าที่แท้จริงแล้วเกิดจากสิ่งใด และเชื่อว่าโรงแรมแห่งนี้จะมีตำนานบทใหม่ให้กลุ่มผู้ชื่นชอบเรื่องหลอนๆ ได้กล่าวขวัญกันอีกอย่างแน่นอน
