เชียงราย - นายกฯ อุ๊งอิ๊งลงพื้นที่ชายแดนดูแผนรับมือน้ำท่วมแม่สาย ทั้งแนวขุดลอก-ทำพนังกั้นน้ำสาย-น้ำรวก ยันการเวนคืนที่ดินริมฝั่งสาย สั่งทดสอบระบบทั้งหมดก่อนฝนหนักกันยาฯ-ตุลาฯ 68
วันนี้ (1 ธ.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่จุดผ่านแดนถาวรข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อติดตามแผนการขุดลอกแม่น้ำเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยชายแดนไทย-เมียนมา โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานว่าปัจจุบันทางการไทยมีการหารือกับทางการเมียนมาเพื่อดำเนินโครงการติดตั้งสถานีโทรมาตรอัตโนมัติจำนวน 4 จุด อยู่ในฝั่งเมียนมา 3 จุด คือ บ้านใจคาดา บ้านดอยต่อคำ และสะพานบ้านสบสาย ฝั่งไทย 1 จุด ตรงสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1
นอกจากนี้ยังมีโครงการขุดลอกแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และทำพนังกั้นน้ำ ซึ่งที่ผ่านมามีการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา เกี่ยวกับเขตแดนคงที่ช่วงแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก (JCR) ครั้งที่ 3 ประจำปี 2567 แล้ว จากนั้นมีการมอบให้คณะทำงานหรือ Sub JCR สำรวจตลอดแนวแม่น้ำทั้งสองสาย ซึ่งเป็นเส้นเขตแดนไทย-เมียนมา
ซึ่งได้ทำบันทึกข้อตกลง หรือ MOU ในการแก้ไขปัญหาร่วมกันแล้วเมื่อวันที่ 6 พ.ย. และวันที่ 17 พ.ย.มีการลงพื้นที่ร่วมกัน วันที่ 18 พ.ย.ประธานคณะทำงานได้มีการหารือกับผู้ว่าฯ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามแม่น้ำสายกับ อ.แม่สาย เพื่อให้กองทัพบกโดยกรมทหารช่างและกองทัพภาคที่ 3 สำรวจและจัดทำแผนผังปรับปรุงแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก
เจ้าหน้าที่แจ้งอีกว่า ในวันที่ 19-20 ธ.ค.นี้จะมีการประชุม JCR เพื่อเห็นชอบแผนงานและโครงการปรับปรุงแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก ก่อนจะเสนอขอจัดสรรงบประมาณในช่วงเดือน ธ.ค. 2567-ม.ค. 2568 คาดว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานจะทำให้ดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน พ.ค. 2568 หรือก่อนฤดูฝนปี 2568
ซึ่งตามแผนงานจะมีการขุดลอกแม่น้ำสายเป็นระยะทาง 14.45 กิโลเมตร จากระยะทางทั้งหมด 15 กิโลเมตร ส่วนแม่น้ำรวกมีการขุดลอก 30.89 กิโลเมตร จากระยะทางทั้งหมด 44 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังจะสร้างพนังกั้นน้ำป้องกันน้ำหลากและโคลนริมแม่น้ำสายระยะทาง 3.96 กิโลเมตรอีกด้วย โดยเฉพาะแม่น้ำสายพื้นที่สำคัญต้องมีการเวนคืนที่ดินทั้งหมดตลอดแนวทำพนังด้วย
นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้ทดสอบระบบทั้งหมดก่อนเดือน ก.ย.-ต.ค. 2568 เพื่อสร้างความมั่นใจ พร้อมได้เดินตรวจดูพื้นที่บริเวณด่านพรมแดน ตลาดสายลมจอย ฯลฯ ด้วย
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถ้ามีวิกฤตเกิดขึ้นไม่ว่าที่ไหน รัฐบาลจะต้องเข้าไปเยียวยาให้ถึงที่สุด สำหรับมาตรการต่างๆ ที่จะต้องทำเราจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามที่คณะทำงานชุดต่างๆ กำลังขับเคลื่อนกันอยู่ เพื่อให้ประเทศแข็งแรง คนไทยรักกันและเศรษฐกิจดีขึ้น