ราชบุรี - มือยิง จ.ส.ท. เจ็บสาหัสกลางเมืองราชบุรี เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างถูกมองแบบเหยียดหยามก่อน และจำได้ว่าเคยเป็นคู่อริกันมาก่อน จึงได้ใช้อาวุธปืนยิง
จากกคดีที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิง จ.ส.ท.ณัฐวุฒิ จันทนา อายุ 29 ปี ทหารในค่ายแห่งหนึ่งในตัวเมืองราชบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่องช่วงค่ำวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ถนนราษฎรยินดี เขตเทศบาลเมืองราชบุรี โดยมีกล้องวงจรปิดใกล้เคียงจุดเกิดเหตุสามารถจับภาพรถกระบะคันที่ก่อเหตุขี่ประกบรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี และขอให้ทางผู้ที่มีเบาะแสหรือรู้จักกับเจ้าของรถให้ติดต่อมาให้ข้อมูล เพื่อจะได้ไปติดตามจับกุมตัว
ล่าสุด วันนี้ (29 พ.ย.) พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้รับการประสานจากทางญาติของมือปืนที่ก่อเหตุว่าจะนำตัวผู้ก่อเหตุมามอบตัวที่ สภ.เมือง จึงสั่งการให้พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี และ พ.ต.ท.ชุมพล สุขภักดี สส.สภ.เมืองราชบุรี ได้ไปทำการรับมอบตัว ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุคือนายอภิชัย แก้วประดิษฐ์ อายุ 32 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ม.7 ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี พร้อมกับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กท 4868 ราชบุรี ซึ่งเป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนอาวุธปืนนั้นยังไม่ได้มีการนำมามอบให้ เนื่องจากนำไปทิ้งแต่จำไม่ได้ว่าทิ้งบริเวณไหน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อหาจุดที่นำอาวุธปืนไปทิ้งด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้เข้าสอบปากคำนายอภิชัย ถึงสาเหตุที่มายิง จ.ส.ท.ณัฐวุฒิ จันทนา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ให้การว่าไม่ได้รู้กับคนเจ็บมาก่อน แต่คุ้นหน้าคนเจ็บเหมือนกับคนที่เคยมีเรื่องกันมาเมื่อ 2-3 ปี ก่อน เพราะคนเจ็บเคยมองหน้าในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง และก่อนเกิดเหตุได้ขับรถเข้ามาในเมืองเพื่อมาหาอะไรกินมาพบกับผู้บาดเจ็บ และจำได้ว่าเคยเป็นคู่อริกันมาก่อน จึงได้ใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งตนนั้นไม่เคยมีประวัติในการต้องโทษมาก่อน ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในการก่อเหตุ และสาเหตุที่ยิงนั้นเพราะเคยถูกผู้บาดเจ็บใช้สายตามองหน้าแบบเหยียดหยาม และเมื่อพบผู้บาดเจ็บอีกครั้งจึงได้ยิงทันที
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวนายอภิชัย มือปืนไปตรวจหาเขม่าดินปืนที่มือ พร้อมกับนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหาขับรถมาคนเดียว เมื่อขับรถมาเทียบข้างรถจักรยานยนต์ก็เปิดกระจกด้านซ้ายลงและใช้มือซ้ายยิงผู้บาดเจ็บ ก่อนจะขับรถหนีไป นอกจากนี้ จะได้นำตัวไปชี้จุดและตรวจค้นหาอาวุธปืนของกลาง โดยตั้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองและทางสาธารณะ ก่อนจะตัวไปดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีข้อที่น่าสังเกตว่า นายอภิชัย นั้นมาคนเดียว แต่สามารถใช้มือซ้ายยิงเข้าหัวได้แม่นยำ ทั้งที่รถกำลังเคลื่อนตัว ส่วนผู้บาดเจ็บสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ซึ่งคนร้ายอ้างว่ารู้สึกคุ้นๆ ทั้งที่เคยถูกมองหน้าแค่ครั้งเดียว จึงเป็นไปไม่ได้ว่าคนร้ายไม่น่าจะจำหน้าได้ ซึ่งในเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดเพราะไม่เชื่อว่าจะมาก่อเหตุคนเดียว