สมุทรสงคราม - นักเรียนหญิงชั้น ม.6 ขี่รถ จยย.ไปส่งน้อง ถูกป้าข้างบ้านขี่รถ จยย.ไล่ตามถึงหน้าโรงเรียน และลงมือทำร้ายก่อนหลบหนีไป
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Jantip Banjaphat ได้โพสต์เรื่องราว “ส่งน้องไปเรียนแทนแม่ทำงาน แต่ลูกฉันโดนผู้ใหญ่ใจสุนัขทำร้าย (อายุประมาณ 55 เรียกว่าผู้ใหญ่มั้ย) ขับมอเตอร์ไซค์ตามลูกฉันไปส่งน้อง ป.3 ที่โรงเรียน ด่าตลอดทาง ลูกสาวกลัวน้องอาย เลยจอดมอเตอร์ไซค์ให้น้องเดินเข้าเรียนแต่ผู้ใหญ่ไม่จบ ทำร้ายเด็ก ม.6 ทำฉันไม่ได้ทำลูกฉันต้องเป็นคนยังไงก่อน ใครสามารถช่วยฉันได้บ้างเพราะแจ้งความแล้วไม่ได้รับความร่วมมือ” พร้อมลงภาพลูกสาวถูกทำร้าย
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบผู้โพสต์ชื่อ น.ส.จันทร์ทิพย์ บัญพัฒน์ อายุ 33 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พาบุตรสาววัย 18 ปี พาไปชี้จุดเกิดเหตุริมถนนหน้าโรงเรียนเมืองสมุทรสงคราม พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนกับคู่กรณีซึ่งอยู่บ้านติดกันมา 2 ปีแล้ว เนื่องจากตนไม่ให้เพื่อนบ้านต่อไฟ จึงไม่ชอบหน้าตน ที่ผ่านมาเจอปัญหาส่งเสียงดัง สุนัขเข้าบ้านและมีการด่าทอกันตลอด เคยมีการไกล่เกลี่ยแต่ไม่จบ ตนจึงคิดขอถอยดีกว่า เตรียมขายบ้านหนีแต่บ้านยังขายไม่ได้ จึงต้องอดทนมาตลอด
ในวันเกิดเหตุตนออกไปรับจ้างทำผมตอนตี 4 จึงให้ลูกสาวคนโตวัย 18 ปี ขับรถ จักรยานยนต์มาส่งลูกชายคนเล็ก และมียายมาเป็นเพื่อน เพราะกลัวถูกดักทำร้ายเพราะโดนข่มขู่มาก่อนหน้านี้ กระทั่งช่วงสายๆ ลูกสาวส่งข้อความมาบอกว่าโดนตบ ตนจึงโทร.หาจนทราบว่าป้าข้างบ้านมาดักตบ จึงไปรับลูกสาวออกมาแจ้งความ ชี้จุดเกิดเหตุ และตรวจร่ายกายแล้ว แต่บริเวณนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้
ด้านผู้เสียหายวัย 18 ปี กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 07.20 น. ตนขับรถ จยย.มาส่งน้องชาย โดยมียายมาด้วย อยู่ๆ ได้มี น.ส.สุธารัตน์ หรืออ้อย ศาสนา เพื่อนบ้านที่เคยมีปัญหากันมานานได้ขับรถ จยย.จี้ท้าย และบีบแตรใส่ แล้วได้ด่ากันไปมาระหว่างยายกับ น.ส.สุธารัตน์ ตอนแรกตนเร่งเครื่องหนี
กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุจึงจอดรถให้ยายพาน้องชายไปส่งในโรงเรียน จากนั้น น.ส.สุธารัตน์ ได้จอดรถ และลงมาด่าทอตน ตนจึงบอกให้ น.ส.สุธารัตน์ ไปสถานีตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ด้วยกัน แต่ น.ส.สุธารัตน์ ไม่ไป ระหว่างนั้น น.ส.สุธารัตน์ เรื่องเครื่อง จยย.แล้วรถล้มลง
จากนั้น น.ส.สุธารัตน์ ได้เข้ามาทำร้ายร่างกายตนด้วยการจิกผมและผลักจนลงไปนอนกับพื้น และต่างคนต่างทำร้ายร่างกายกัน มีคนมาช่วยแยกออกจากกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวจึงไปพบ น.ส.สุธารัตน์ ศาสนา หรือป้าอ้อย คู่กรณี ชี้แจงว่า เมื่อ 2 วันก่อน ขณะที่ตนขี่รถ จยย. โดย น.ส.จันทร์ทิพย์ คู่กรณีขับรถเก๋งหวังตบให้ตกข้างทาง จึงเกิดกระทบกระทั่งกัน ตนจึงกลับมาด่าในบ้าน และตนปิดประตูบ้านออกไปตลาด กลับมาโดนตะปูวางไว้หน้าบ้านเป็นเรือใบ ตนจึงโมโห เมื่อวันเกิดเหตุตนขับรถพาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล รถเยอะตนจึงบีบแตรโดยที่ไม่รู้ว่ารถคู่กรณีอยู่ข้างหน้า
ต่อมาเห็นคู่กรณียกเท้าโบกไปโบกมา และตะโกนด่า ตนจึงเรียกจอดและเกิดมีปากเสียงกันและกระชากมือตนทำให้รถล้ม แล้วจึงเกิดชุลมุนกันจนมีคนมาห้าม ตนยืนยันว่าถูกคู่กรณีเริ่มก่อน โดยดึงกุญแจและกระชากมือตนก่อน ส่วนกรณีหาว่าตนไม่จ่ายค่าไฟนั้น ตนยืนยันว่าจ่ายค่าน้ำค่าไฟทุกเดือนตรงเวลาตลอด จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงต่างคนต่างอยู่
