ตราด - ททท.ตราด ดันเกาะกูด แหล่งท่องเที่ยวสวยงามที่ยังมีความสดใหม่ทางธรรมชาติ การเดินทางสะดวก เร่งใช้สื่อออนไลน์ช่วยเผยภาพความงามของชายหาดต่างๆ หวังกระตุ้นการเดินทางให้เพิ่มมากขึ้น เผยตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มีมากแล้วกว่า 2 แสนคน
วันนี้ (20 พ.ย.) ว่าที่ร้อยตรีกรกฎ โอภาส ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด เผยว่า หลังได้มีโอกาสเดินทางสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวและพบปะผู้ประกอบการใน ต.เกาะกูด และ ต.เกาะหมาก อ.เกาะกูด ซึ่งเป็นเกาะสุดท้ายของน่านน้ำทะเลตะวันออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของไทย พบว่าเกาะกูดยังมีความสดด้านธรรมชาติ และชุมชนที่อยู่ในพื้นที่มีความเข้มแข็ง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานทั้ง ถนน ไฟฟ้า และน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน
ขณะที่การเดินทางมาเกาะกูด จ.ตราด ยังมีความสะดวกสบาย เนื่องจากมีเรือโดยสารให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จึงอยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาสัมผัสความสวยงามทางธรรมชาติ
โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ที่น้ำทะเลจะมีความสวยงาม ชายหาดและท้องฟ้า รวมทั้งป่าไม้ยังมีความสดจนเหมาะแก่การจัดกิจกรรมทางการท่องเที่ยว
ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานตราด ยังบอกอีกว่า นอกจากเกาะกูดจะมีจุดขายที่ชายหาดที่มีความหลากหลายและมีความสวยงามติดอันดับต้นของประเทศไทย เช่น หาดคลองระหาน ที่มีความสงบเงียบคลื่นลมเบา และชายหาดที่มีแหลมเล็กๆ เข้าถึงไม่ยาก
ส่วนชายหาดคลองยายกี๋ วิวคลองขึ้นชื่อเรื่องความสงบเงียบและมีความเป็นส่วนตัว อีกทั้งธรรมชาติยังสดใหม่แทบจะไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ที่สำคัญเม็ดทรายยังขาวละเอียด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ และยังมีแนวต้นมะพร้าวเรียงหน้าหาดวิวธรรมชาติเหมาะแก่การนั่งเล่นนอนเล่นมาก
ขณะที่ชายหาดคลองมาด มีจุดเด่นคือการอยู่ในย่านชุมชนบ้านคลองมาด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยายกาศวิถีชีวิตชุมชนประมง และยังสามารถหาซื้ออาหารทะเลสดจากชุมชนได้อีกด้วย
และยังมีหาดตะเภา ถือเป็นชายหาดที่มีความยาวโซนหนึ่งบนเกาะกูด พื้นที่หน้าหาดด้านขวาสุดมีสะพานท่าเรือน้ำลึกสามารถจอดรถที่เชิงสะพาน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเที่ยวได้ พื้นชายหาดบริเวณสะพานยังมีแนวหินบ้างเล็กน้อย ส่วนชายหาดมีลักษณะเป็นพื้นราบเป็นทางยาว ทรายขาว น้ำใส ลงเล่นน้ำได้
ล่าสุด ททท.ตราด ยังได้เผยภาพความสวยงามของชายหาดต่างๆ ของจังหวัดสุดท้ายในภาคตะวันออก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ทุกหาดสามารถชม Sunset ได้โรแมนติกมาก” ที่เพจ ททท.สำนักงานตราดได้อีกด้วย
ด้าน น.ส.พลับพลึง เพิ่มทรัพย์ ประธานชมรมท่องเที่ยวอำเภอเกาะกูด เผยว่าปัจจุบัน เกาะกูด เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เกาะกูดกลับมีจำนวนห้องพักเพียง 1,600 ห้องเท่านั้น เพราะชาวเกาะกูด ต้องการรักษาแหล่งท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ และเป็นการท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยวของอำเภอเกาะกูดให้ดียิ่งขึ้น
“เราไม่ต้องการเห็นเจ็ตสกี หรือการมีร้านสะดวกซื้อเข้ามาตั้งในพื้นที่ เพราะเราต้องการเปิดโอกาสให้ชาวเกาะกูดที่มีร้านค้าย่อยได้มีรายได้ และยังเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมและสภาพความเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ของเกาะกูดไว้ขาย มากว่าการได้นักท่องเที่ยวในเชิงปริมาณ” ประธานชมรมท่องเที่ยวอำเภอเกาะกูด กล่าว
โดยในปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา อ.เกาะกูด มีมากถึง 291,214 คน สร้างรายได้เข้าพื้นที่จำนวน 2,873 ล้านบาท และในปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.2568) มีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่แล้ว 232,114 คน และสามารถรายได้เข้าพื้นที่แล้วถึง 2,827 ล้านบาท