ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจ สภ.วังจันทร์ นำตัวผู้ต้องหาฆ่าโหดแม่ยายอัยการ ชี้จุดขายทองที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้เงินเกือบ 9 หมื่นบาท อ้างเป็นทองเก่าซ้ำยังใช้ชื่ออื่นรับเงิน ตำรวจชี้หลักฐานมัดตัวจากเส้นผมในมือผู้เสียชีวิต ส่วนมูลเหตุลงมือฆ่าเพื่อนเพราะติดพนัน
จากกรณีการพบศพสาวใหญ่ถูกทิ้งในสวนปาล์ม ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง สภาพถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบที่ใบหน้าและนิ้วนางทั้งสองข้างถูกตัด ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นศพของนางวรรณา อายุ 65 ปี ที่ น.ส.วรรณรัตน์ ซึ่งเป็นบุตรสาว และยังเป็นภรรยาอัยการได้แจ้งหายไว้ โดยพบว่าสร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือน้ำหนักรวม 8 บาท รวมทั้งแหวนเพชรอีก 2 วงที่แม่สวมใส่ไปทำบุญได้สูญหายไป
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางกมลวรรณ อายุ 57 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิตและเป็นผู้ต้องสงสัยไปมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองสัตหีบ จ.ชลบุรี และ สภ.วังจันทร์จ.ระยอง ก่อนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (18 พ.ย.) พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.วังจันทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางกมลวรรณ ไปชี้จุดที่นำทองคำของผู้เสียชีวิตซึ่งประกอบด้วย แหวน 2 วง สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และสร้อยข้อมือหนัก 1 บาท ไปขายที่ร้านทองในเขตเทศบาลเมืองบ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ในราคา 88,300 บาท เมื่อเวลา 17.25 น.วันที่ 15 พ.ย.2567
หลังนำศพผู้เสียชีวิตทิ้งในสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เป็นที่เรียบร้อย และได้ขับรถยนต์สีขาวที่ใช้ก่อเหตุมาร้านทองดังกล่าว โดยอ้างว่าทำบัตรประชาชนหาย
พ.ต.อ.พัฒนา เผยว่าการจับกุมผู้ต้องหาเป็นไปตามหลักฐานสำคัญคือเส้นผมของผู้ต้องหาที่อยู่ในมือของผู้เสียชีวิต ซึ่งในครั้งแรกยังไม่ปักใจเชื่อว่าลงมือทำคนเดียว กระทั่งพบว่มีการตีหัวก่อนนำศพไปทิ้ง และตัดนิ้วเพื่อชิงแหวนไป ซึ่งประเด็นการก่อเหตุเพื่อหวังชิงทรัพย์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้การพนัน
ขณะที่หลานสาวเจ้าของร้านทองใน อ.บ้านบึง เผยว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์เก๋งสีขาวเข้ามาจอดหน้าร้าน และได้ยื่นแหวนให้โดยอ้างว่าแหวนเบี้ยวจึงต้องการขาย จากนั้นจึงนำสร้อยคอและสร้อยข้อมือออกมาขอขายพร้อมกันโดยอ้างว่าเป็นทองเก่า และเมื่อได้เงินรีบออกจากร้านไป
และในวันที่นำทองมาขายยังใช้ชื่ออื่นที่ไม่ใช่ชื่อปัจจุบันของตนเอง ซ้ำยังไม่แสดงอาการใดๆ อีกด้วย