นครปฐม - ทนายพจน์ นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความพระปีนเสา หมดความเป็นพระสงฆ์ ยากที่จะอุทธรณ์กลับมาบวชได้อีกครั้ง ขณะที่เจ้าตัวได้เคลื่อนไหวในการโพสต์ TikTok โดยกล่าวถึง กัน จอมพลัง ทนายพจน์ หลวงพี่น้ำฝน ว่าบิดเบือนข้อกฎหมาย
หลังจากเจ้าอาวาสวัดสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการออกหนังสือรับพระครูปลัดธีระฯ หรือพระปีนเสา ให้พ้นจากวัดสามชุก โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้เกิดกระแสความสนใจของประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวบนโลกโซเชียลอย่างเผ็ดมัน ทั้งนี้พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ออกมาแจ้งถึงหนังสือคำสั่งดังกล่าว พร้อมกับแสดงจุดยืนในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานพระวินยาธิการภาค 14 ที่จะมีการทำงานในการแก้ปัญหาข้อร้องเรียนของอธิกรณ์ และภาพลักษณ์ของพระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่ปกครองดูแล
ขณะที่นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร หรือทนายพจน์ นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า เป็นการปิดตำนานพระปีนเสาไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากใครเตือนก็ไม่ฟัง กระทั่งวันที่ 11 พฤศจิกายน ท่านเจ้าอาวาสวัดสามชุกได้มีการออกหนังสือให้มีการควบคุมพฤติกรรมต่างๆ และให้อยู่ในสังกัดวัด แต่เจ้าตัวหายตัวไปและไม่กลับเข้ามาที่วัดอีกเลย และในวันนี้วันที่ 15 พฤศจิกายน ท่านเจ้าอาวาสวัดสามชุกได้ออกหนังสือฉบับที่ 3 คือสั่งให้พ้นจากสังกัดวัดสามชุก มีผลทันที
นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นการนำเข้าสู่กฎของมหาเถรสมาคม ข้อ 21 พุทธศักราช 2538 ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ ในข้อที่ 3 (1) ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ ให้เจ้าอาวาสวัดซึ่งพระภิกษุรูปนั้นสังกัด หรือพํานักอาศัยมีอํานาจหน้าที่แนะนํา ชี้แจง ตักเตือน ให้พระภิกษุรูปนั้นประพฤติตามพระธรรมวินัยเป็นลายลักษณ์อักษร
โดยกําหนดเวลาให้ปฏิบัติ หากพระภิกษุรูปนั้นไม่ปฏิบัติตามคําแนะนํา ชี้แจง ตักเตือน ภายในเวลาที่กําหนด ให้เจ้าอาวาสซึ่งพระภิกษุรูปนั้นสังกัดหรือพํานักอาศัย รายงานโดยลําดับ จนถึงเจ้าคณะอําเภอเจ้าสังกัด เพื่อวินิจฉัยให้สละสมณเพศ ซึ่งข้อนิ้เข้ากฎแล้ว 1 ข้อ และยังมีข้อ 2 คือ ไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง หรือไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ให้พระภิกษุผู้ดํารงตําแหน่งปกครองวัดหรือพระภิกษุผู้ดํารงตําแหน่งปกครองคณะสงฆ์ ในเขตท้องที่ที่พบพระภิกษุรูปนั้นมีอํานาจหน้าที่วินิจฉัยให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้ ข้อนี้เข้ากฎอีก เป็นข้อที่ 2 ซึ่งเจ้าคณะผู้ปกครอง หากพบเห็นไม่ว่าจะไปที่จังหวัดไหนภาคใดสามารถให้สละสมณเพศได้ทันที
นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าว เจ้าตัวจะมีสิทธิยื่นอุทธรณ์หรือยื่นคำร้องที่จะปฏิบัติตามได้หรือไม่ ต้องย้อนกลับไปดูที่ข้อ 5 คือข้อ 5 คําวินิจฉัยให้พระภิกษุสละสมณเพศตามข้อ 3 หรือข้อ 4 ให้เป็นอันถึงที่สุด นั่นหมายความว่าไม่สามารถอุทรณ์ได้ และอีกประการคือข้อ 7 พระภิกษุผู้ต้องคําวินิจฉัยให้สละสมณเพศต้องสึกภายใน 3 วัน นับแต่วันทราบหรือถือว่าทราบคําวินิจฉัยนั้น ในกรณีที่พระภิกษุรูปนั้นไม่สึกภายในกําหนดเวลาดังกล่าว ให้พระภิกษุผู้มีหน้าที่จัดการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศอารักขาต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายราชอาณาจักร เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามคําวินิจฉัย
"คือถ้าไม่สึกเจ้าคณะผู้ปกครองสามารถที่จะขอกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานบ้านเมืองที่จะสามารถมาดำเนินการควบคุมตัวเพื่อนำไปทำการสึกได้ ตรงนี้คือประเด็นที่สำคัญ ซึ่งถ้ายิ่งดื้อ ยิ่งไม่สนกระแสสังคม ตัวพระปีนเสาเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน" นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวปิดท้าย
ขณะที่ในช่วงเวลาประมาณ 00.45 น. ในโซเชียล Tiktok ชื่อ พระครูปลัดธีระ ได้มีการโพสต์คลิบ ความยาวประมาณ 1 นาที โดยมีการตอบโต้และแสดงการไม่เห็นด้วยซึ่งได้กล่าวถึง กัน จอมพลัง ทนายพจน์ และหลวงพี่น้ำฝน โดยมีลักษณะบอกว่าเป็นการกลั่นแกล้งและเป็นพวกทำลายศาสนาที่มาจ้องทำลายตนเอง
โดยขณะที่ก่อนหน้าได้มีการนำหนังสือจากเจ้าอาวาสวัดสามชุกในการสั่งให้ตนเองพ้นจากวัดสามชุกในวันนี้ และหนังสือราชกิจจานุเบกษามาตราที่ 27 ขึ้นมาแสดงและลง ว่าเป็นกลุ่มขบวนการทำลายพระสงฆ์และพระพุทธศาสนาปลุกระดมให้ความให้ร้ายพระครูปลัดธีระโดยเบียดเบียนข้อกฎหมาย ทั้งนี้ในส่วนคอมเม้นต์ต่างๆที่ปรากฏในห้องแสดงความคิดเห็นได้มีการสอบถามและให้ความเห็นว่าพระครูธีระได้ผลจากสภาพความเป็นพระสงฆ์แล้ว