ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ช้างป่าทับลาน กว่า 80 ตัว หิวโซ ออกจากเขตอุทยานฯทับลาน ยกโขลงบุกกินพืชสวนไร่มันสำประหลังชาวบ้าน อ.ครบุรี โคราช พังราบ ทีมอาสาสมัครฯระดมกำลังผลักดันช้างกลับเข้าป่ากันตลอดทั้งคืนมานานกว่า 1 สัปดาห์แต่โขลงช้างก็กลับมาหากินทำลายพืชผลของเกษตรกรอีก
วันนี้ (15 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิฮุก 31 นครราชสีมา นำโดรนตรวจจับความความร้อน ขึ้นสังเกตการณ์เพื่อวางแผนให้ทีมอาสาสมัครเฝ้าระวังผลักดันช้างป่า ระหว่าง ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว และ ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เข้าทำการผลักดันช้างป่าที่ออกจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน มาหากินภายในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน บริเวณไร่มันสำปะหลังท้ายบ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี ตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งโดรนสามารถจับภาพโขลงช้างขนาดใหญ่เกือบ 80 ตัว รวมโขลงกันออกหากินมันสำปะหลังของชาวบ้าน จึงต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกว่า 10 นาย ผลักดันตลอดทั้งคืนกว่าช้างจะอยู่กลับเข้าป่าไปในที่สุด
แต่ เมื่อช่วงประมาณ 21.00 น. คืนนี้ ( 14 พ.ย.) ปรากฏว่า ช้างโขลงเดิม ยังกลับเข้าไปหากินในบริเวณดังกล่าวเดิมอีกครั้ง ทางทีมอาสาสมัครฯ จึงจัดเตรียมกำลังคนและยานพาหนะ ทั้งรถกระบะและรถไถ เกือบ 10 คัน เข้าผลักดันกันอีกรอบ ซึ่งยังคงต้องใช้เวลากันทั้งคืนกว่าช้างจะยอมกลับเข้าป่าไปอีก
นายสุริยงค์ ภาษี กำนันตำบลจระเข้หิน บอกว่า ตอนนี้ช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ออกจากป่ามาหากินทำลายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน กระจายอยู่ในหลายจุดของ 2 ตำบล คือ ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี และ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว รวมๆ แล้ว น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 100 ตัว กลุ่มเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าของทั้ง 2 ตำบล ก็ได้พยายามประสานงานร่วมกัน
อย่างไรก็ตามยังติดอุปสรรคเรื่องเครื่องมือและอุปกรณ์ ทั้งยานพาหนะ ประทัด และโดรนสังเกตการณ์ โดยเฉพาะโดรนจับภาพความร้อน มีจำเป็นต้องใช้อย่างมาก เพื่อจะได้ระบุจุดที่ช้างอยู่ให้แน่ชัด ก่อนวางแผนเข้าผลักดันได้ตรงจุดและให้เกิดความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงาน เพราะตอนนี้มีช้างออกหลายจุดมาก อุปกรณ์ที่มีอยู่จึงไม่เพียงพอ อีกทั้งทีมเครือข่ายฯ ได้เฝ้าระวังและผลักดันอยู่อย่างนี้กว่า 1 สัปดาห์แล้ว ทำให้ตอนนี้ทีมงานกำลังเหนื่อยล้าอย่างมาก