ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เริ่มแล้วงานสีฐานเฟสติวัล บุญสมมาบูชานาค ม.ขอนแก่น 13-15 พ.ย.นี้ นักท่องเที่ยวไทย-เทศแห่ร่วมพิธีเปิดคึกคัก ชมความสวยงามของโคมไฟเพนต์มือและกระทงบกกว่าหมื่นดวง จัดเต็มเอาใจสายมูเตลู ครบทุกความเชื่อทุกศาสนา คาดคนร่วมงานกว่า 3.5 แสนคน เงินสะพัดกว่า 700 ล้านบาท
ค่ำคืนที่ผ่านมา ที่บึงสีฐาน ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งได้มีการจัดงานลอยกระทงขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. 2567 ในชื่อ สีฐานเฟสติวัล บุญสมมาบูชานาค ภายใต้แนวคิด วิถีแห่งอีสาน สีฐานมูเตลู โดยมี รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่
บรรยากาศคึกคัก มีบุคลากรของทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น นักศึกษา และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมงานเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งได้นำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ และกระทงขนมปังที่พ่อค้าแม่ค้าได้จัดทำขึ้นมาจำหน่ายภายในงานตั้งแต่ราคา 20-100 บาท และปีนี้มีกระทงแปลกตาเพิ่มขึ้นมา 1 แบบจากกระแสหมูเด้ง เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ซื้อมาลอยกระทงกับครอบครัวด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงย่ำค่ำวันเดียวกัน ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ประกอบพิธีบวงสรวงพญานาค 15 ตระกูล ซึ่งสัญลักษณ์ของน้ำคือนาค จากการศึกษาชาติพันธุ์ ล้านช้างหรืออีสาน พบว่าการสร้างบ้านแปงเมืองมักจะผูกติดกับความเชื่อเรื่องพญานาค เช่นนาค 15 ตระกูลก็มีส่วนสำคัญในการสร้างอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งอาณาจักรล้านช้างก็คือรากของอีสาน เพื่อระลึกบุญคุณของน้ำ
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแสดงของนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น และการประดับโคมไฟเพนต์มือนับหมื่นดวง ซึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ประดับตกแต่งตลอดเส้นทางถนนสีฐานด้านหน้าศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก โดยปิดถนนโดยรอบหอศิลปวัฒนธรรม พร้อมทั้งมีกระทงบกกว่า 15,000 ดวง รายล้อมรอบพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานอยู่บนลานวัฒนธรรม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายภาพ และชมความสวยงามในการประดับตกแต่งสถานที่โดยรอบบึงสีฐานทั้งสองฝั่ง
รศ.ดร.นิยม วงษ์พงศ์คำ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวถึงงานสีฐานเฟสติวัลว่า ในปีนี้ตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงานคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาร่วมงานไม่น้อยกว่า 350,000 คน ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ที่เกิดขึ้นแก่จังหวัดไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท การจัดงานสีฐานเฟสติวัลทุกปีจะมีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำ ระบบไฟแสงสี สถานที่ การแสดงและการละเล่นต่างๆ แต่ที่ซ้ำบางรายการคือการเล่นโคมไฟเพนต์มือ ซึ่งไม่ได้เป็นการนำโคมไฟทั่วไปที่ซื้อแล้วนำมาแขวน แต่เป็นการที่ทุกคนใน มข.และชาวขอนแก่นได้ร่วมกันเพนต์มือในโคมไฟทุกดวงที่เป็นการรวมพลังของคนขอนแก่นครั้งสำคัญ
ขณะเดียวกัน อีสานเป็นพื้นที่และดินแดนแห่งผี ซึ่งผี พราหมณ์ และพุทธ นั้นเราจะแยกจากกันไม่ได้ และโดยรวมเราก็เรียกกันว่ามูเตลู ซึ่งมูเตลูนั้นพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอยู่ทั้งในผี ผีก็มีทั้งผีดีผีร้าย ซึ่งหากจะกล่าวถึงมูเตลูต้องเป็นศาสนาพราหมณ์มาอันดับแรก ขณะที่ศาสนาพุทธของเรานั้นแก่นแท้ไม่มีมูเตลู แต่เมื่อนำมาผสมผสานกันแล้วโดยเฉพาะวัฒนธรรมพื้นบ้านและแต่ละท้องถิ่นก็จะกลายเป็นความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์
ดังนั้น ปีนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงได้หารือกันว่าเราจะยกความเป็นมูเตลูมาเป็นมูอีโคโนมี งานปีนี้จะมีทั้งผี พราหมณ์ พุทธ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบครบสูตร แต่ด้วยวิถีพุทธ ก็จะต้องเน้นความศรัทธาทางพระพุทธศาสนา โดยกิจกรรมวันแรกจะเป็นพิธีอัญเชิญพระอุปคุต ขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุ การตักบาตร ขณะที่เนินศักดิ์สิทธิ์ของ มข.ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดทำนกหัสดิงค์ถวายแด่หลวงพ่อคูณ ตรงจุดดังกล่าวปีนี้ก็จะเป็นเนินพญานาค นาคี นาคา ที่จะเป็นการผสมผสานระหว่างพญานาคของจีน, เวียดนาม และลาว ที่จะมารวมตัวกันที่ขอนแก่น ซึ่งอยากให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความสวยงามของงานศิลปะอีกแบบหนึ่งที่สำคัญ