เชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 แกะรอยนำหมายจับตามรวบ "กรรชัย" คาบ้านพัก หลังล่อลวงเด็กหญิงสองพี่น้องชาวแม่สายอายุ 13 ปี กับ 14 ปี ให้ถ่ายคลิปโป๊เปลือยแล้วเอามาใช้ข่มขู่ขอเงิน แค่ 100 บาทก็ยังเอา แต่สุดท้ายหนีไม่รอด เตือนผู้ปกครองใส่ใจสอดส่องดูแลและให้คำแนะนำลูกหลานอย่างใกล้ชิด ป้องกันตกเป็นเหยื่อ
วันนี้ (13 พ.ย. 67) พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า วานนี้ (12 พ.ย. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5, เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5), เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้าทำการจับกุมตัวนายกรรชัย ขำเหล็ง หรือ "กัส สายไหม" อายุ 18 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ฐานความผิด “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ส่งต่อซื่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพฯ” โดยจับตัวได้ที่หน้าบ้านพักในซอยพหลโยธิน 50 เขตสายไหม กรุงเทพฯ พร้อมของกลางโทรศัพท์ไอโฟน 11 จำนวน 1 เครื่อง
โดยการจับกุมตัวดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 67 แม่ของเด็กหญิงสองพี่น้อง อายุ 13 ปี และ 14 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า ลูกสาวทั้งสองคนถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเข้ามาตีสนิทและล่อลวงให้ถ่ายคลิปวิดีโอลามกอนาจารของตัวเองในลักษณะเปลือยกายส่งไปให้ จากนั้นได้นำมาใช้ข่มขู่ขอเงินจากแม่เด็กจำนวน 100 บาท เพื่อแลกกับการไม่นำออกเผยแพร่ให้อับอาย และทราบจากเด็กหญิงด้วยว่าถูกข่มขู่เช่นกัน รวมทั้งมีการนำคลิปออกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ทำให้ได้รับความอับอายและหวาดกลัว ขณะที่ต่อมาในวันที่ 10 พ.ย. 67 ผู้ก่อเหตุยังได้ส่ง ข้อความถึงแม่เด็กเพื่อข่มขู่ขอเงินอีก 100 บาท แลกกับการลบคลิปทิ้ง ซึ่งแม่เด็กได้ยอมโอนไปให้ โดยจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินและสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายกรรชัย จึงขอศาลออกหมายจับและจับกุมตัวได้ พร้อมควบคุมตัวส่งดำเนินคดีที่ สภ.แม่สาย ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เน้นย้ำและแนะนำประชาชนในการป้องกันการตกเป็นผู้เสียหายในลักษณะนี้ว่า ผู้ปกครองต้องหมั่นสอดส่องพฤติกรรมของบุตรหลานที่เป็นเด็กวัยรุ่น ทั้งพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน การใช้เงิน การเรียน หากมีความผิดปกติให้สอบถามปัญหาสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งเอาใจใส่และดูแลการใช้งานผ่านสื่อโซเชี่ยลของบุตรหลานที่เป็นเด็กวัยรุ่น เนื่องจากเป็นเป้าหมายที่คนร้ายจะชักจูงได้ง่าย รวมทั้งควรให้คำแนะนำว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ให้เห็นถึงผลเสียที่จะตามมาของการกระทำที่ขาดความยั้งคิด ขณะที่การเผยแพร่ภาพอนาจารเป็นความผิดอาญาทั้งคนถ่าย ผู้เผยแพร่ ผู้ตั้งกลุ่มขายรูป และที่สำคัญแม้ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดโดยตรง แต่แค่เข้าไปคอมเมนต์ก็อาจทำให้มีความผิดได้ ส่วนคนถ่าย อาจเข้าข่ายความผิดทั้งฐานอนาจาร ฐานถ่ายภาพ และฐานครอบครอง สื่อลามกอนาจาร ขณะที่การโพสต์ลงโซเชียล เข้าข่ายความผิดส่งต่อสื่อลามกอนาจารให้คนอื่นตามประมวลกฎหมายอาญา และยังเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้การตั้งกลุ่มขายภาพอนาจาร หากดูแล้วมีเจตนาถ่ายภาพเพื่่อขาย-แสดงอวดแก่ประชาชน ระวางโทษจำคุก ซึ่งหากพบภาพที่โพสต์มามีข้อความ (ลามก) ไม่ควรส่งต่อ เพราะถ้าส่งต่อเท่ากับเป็นการสนับสนุน
