เชียงใหม่ - รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องออกตรวจคุมเข้มผู้ผลิตและจำหน่ายโคมลอยช่วงงานประเพณีลอยกระทงหรือยี่เป็ง ประจำปี 2567 เน้นย้ำปล่อยได้เฉพาะพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตแล้วเท่านั้น โดยปีนี้มีการยื่นขอทั้งสิ้น 62,000 ดวง ขณะที่พื้นที่ 6 อำเภอ 39 ตำบลในรัศมีการบินห้ามเด็ดขาด ระบุหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจและให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายโคมลอย โคมไฟ 3 จุด ในจังหวัดเชียงใหม่ คือ แหล่งทำเชื้อเพลิงสำหรับโคมลอยในตำบลหนองตอง อำเภอหางดง, ร้านจำหน่ายโคมลอย ในตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี และย่านชุมชนเมืองสาตรหลวง ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเทศกาลลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็งประจำปี 2567
จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกมาตรการกำหนดพื้นที่ปล่อยโคมลอยไว้อย่างชัดเจน ห้ามจุดและปล่อยโคมโดยเด็ดขาด ในพื้นที่ 6 อำเภอ 39 ตำบล ประกอบด้วย อำเภอเมืองเชียงใหม่และอำเภอหางดงทุกตำบล, อำเภอสารภี ในพื้นที่ตำบลขัวมุง ดอนแก้ว สันทราย ท่าวังตาล และตำบลหนองผึ้ง, อำเภอสันทราย พื้นที่ตำบลหนองหาร, อำเภอแม่ริม พื้นที่ตำบลดอนแก้ว เหมืองแก้ว ริมใต้ แม่สา ตำบลริมเหนือ และอำเภอสันป่าตองพื้นที่ตำบลทุ่งต้อม เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ในรัศมีการบิน
สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยทางเดินอากาศ สามารถปล่อยโคมลอยและโคมไฟได้ แต่ต้องขออนุญาตนายอำเภอท้องที่ก่อนปล่อย 30 วัน ซึ่งในปีนี้มีโคมลอยที่ได้รับการอนุญาตทั้งหมด 62,000 ดวง ตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่กำหนดให้สามารถปล่อยโคมลอยและโคมไฟได้ 2 วันเท่านั้น คือ วันที่ 15 และ 16 พฤศจิกายน เฉพาะเวลา 19.00-01.00 น. และกำหนดว่าโคมลอยที่สามารถปล่อยได้ จะต้องมีขนาดและรูปแบบตามมาตรฐาน มผช.808/2552 ตัวโคมทำจากวัสดุธรรมชาติ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 90 เซนติเมตร และสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร และต้องปล่อยในพื้นที่ที่มีการขออนุญาตแล้วเท่านั้น ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากปล่อยโคมทำให้เกิดเพลิงไหม้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ