เชียงใหม่ – เจอตำรวจช้างเผือก เรียกตรวจค้น-รวบ ยกแก๊ง..4 วัยรุ่นเมียนมา พกทั้งมีด-ระเบิดปิงปอง กลางเมืองเชียงใหม่ อ้างเอาไว้ป้องกันตัวขณะจะไปหาเพื่อน เบื้องต้นเป็นวัตถุระเบิดที่ทำอันตรายคนได้ในระยะ 5 เมตร
วันนี้(11 พ.ย.) พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรชัย ศุภยศอมร รอง ผบก.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม รอง ผบก.ฯ ช่วยราชการ ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นพกพาอาวุธและวัตถุระเบิด
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ได้ร่วมกันจับกุมกลุ่มวัยรุ่นชาวเมียนมา จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายอ้ายเคย อายุ 25 ปี , นายมน ลุงอ่อง อายุ 22 ปี , นาย Sai Ba Aung อายุ 20 ปี และ นายจาย ป้าอ่อง อายุ 20 ปี ซึ่งได้พกพาอาวุธมีดและวัตถุระเบิดเข้ามาภายในพื้นที่ตำบลช้างเผือก
ทั้งหมด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตรวจค้นได้ที่บริเวณหน้าหอพักไม่มีชื่อ ถนนหมื่นด้ามพร้าคต ซอย 1 ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ และสามารถตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย มีดยาว 70 เซนติเมตร 1 เล่ม , มีดหัวตัด ยาว 50 เซนติเมตร 1 เล่ม และ วัตถุระเบิดประดิษฐ์เองในลักษณะเป็นก้อนกลมสีดำพันด้วยเทป จำนวน 2 ก้อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด พร้อมกับดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 4 ราย ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันพกพาอาวุธมืดและวัตถุระเบิดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันควร”
ทั้งนี้ ภายหลังการจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ช้างเผือก ได้สอบสวนข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มวัยรุ่นเพื่อขยายผล จนทราบว่า ระเบิดแสวงเครื่อง (ระเบิดปิงปอง) ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดเป็นของกลางนั้น นายจายป้าอ่อง รับว่าเป็นของตนจริง ซึ่งได้มาจากนายโช ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง (ชาวไทยใหญ่) โดยอ้างว่า ตนกับพวกซึ่งได้พกพาอาวุธของกลางและระเบิดปิงปองไว้เพื่อป้องกันตัว ขณะที่ตนมาหาเพื่อนในพื้นที่ สภ.ช้างเผือก และถูกเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ช้างเผือก จับกุม
ขณะที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก นำระเบิดปิงปองให้งานเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5 ทำการตรวจสอบ เบื้องต้น พบว่า วัตถุดังกล่าวเป็นวัตถุระเบิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2590 โดยจัดว่าเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง (ลูกตกกระทบ)
ซึ่งผู้ประกอบระเบิดมีจุดประสงค์ที่ให้เกิดการระเบิดจากก้อนหิน และเศษแก้วที่บรรจุมีการเสียดสีเกิดความร้อนประกายไฟจุดติดกับสารระเบิดแรงต่ำภายใน ทำให้เกิดแก๊ส คลายพลังงานออกมาและผลักก้อนหิน และเศษแก้วแตกเป็นสะเก็ดเล็กๆ ทำอันตรายเป้าหมาย ภายในบรรจุสารระเบิดแรงต่ำ (Flash Powder) น้ำหนักรวม 0.2 กรัม โดยมีก้อนหิน และเศษแก้วเป็นสะเก็ด จำนวน 2 ลูก ซึ่งสามารถทำอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ในระยะ 5 เมตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมทั้งผลการตรวจพิสูจน์ส่งมอบแก่พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป