ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าของโฮมสเตย์หรูบางเสร่ หอบทองคำ 67 บาท หนีจากกองเพลิงที่ลุกไหม้เรือนนอนจนวอดทั้งหลัง คาดไฟฟ้าลัดวงจร โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมลงพื้นที่หาสาเหตุแท้จริงวันนี้
เมื่อเวลา 20.00 น.วานนี้ (10 พ.ย.) ร.ต.อ.คุณาธิป ขุ่ยคำนี้ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รุนแรงระดับ 3-4 ภายในโฮมสเตย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.11 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงประสาน หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว นำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ
ขณะที่ นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว ได้ประสานเทศบาลในพื้นที่ใกล้เคียงร่วมนำรถดับเพลิงเกือบ 10 คัน กระจายกำลังฉีดน้ำสกัดเพลิงโดยรอบพื้นที่โฮมสเตย์ ที่กำลังโหมลุกไหม้เรือนนอน 2 ชั้นซึ่งทำจากไม้ไผ่มุงหลังคาด้วยหญ้าคาซึ่งถือเป็นเชื้ออย่างดี และยังตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่เพลิงไหม้ ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ในสภาพที่ตัวอาคารด้านบนถูกเพลิงเผาวอดเสียหายจนไม่เหลือชิ้นดี คาดมูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท แต่ยังโชคดีที่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
หลังเพลิงสงบ นายพิระพงค์ ชัยคำภา อายุ 47 ปี เจ้าของโฮมสเตย์ที่วิ่งเข้าไปในเรือนพักเพื่อหอบภาชนะดินเผาคล้ายจานที่ภายในมีสิ่งของถูกเพลิงเผาไหม้จนเป็นสีดำออกมาได้ ซึ่งทราบภายหลังทราบว่าเป็นทองคำรูปพรรณและทองคำแท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 67 บาท มูลค่าราว 3,000,000 บาท ซึ่งถูกไฟไหม้เสียหายบางส่วน เผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.55 น.ซึ่งตนได้นั่งดื่มเบียร์อยู่กับแฟนหนุ่มและเพื่อน
และได้สังเกตเห็นว่าด้านหน้าโฮมสเตย์มีเพลิงลุกไหม้ เมื่อวิ่งไปดูพบว่าต้นเพลิงมาจากต้นคริสต์มาส 1 ใน 3 ต้นที่ตั้งอยู่ใกล้กับอาคารนอนที่ได้มีการประดับประดาด้วยไฟหยดน้ำ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้น และลุกลามไปติดหลังคาที่มุงด้วยหญ้าคา โชคดีที่สามารถนำทองคำซึ่งเป็นสมบัติที่เก็บสะสมไว้ออกมาได้
ด้าน ร.ต.อ.คุณาธิป ขุ่ยคำนี้ ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ถ่ายภาพบันทึกที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้ประสานหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจพิสูจน์ทราบหาสาเหตุในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
