นครราชสีมา-สะเทือนใจ!ครอบครัวหนุ่มแรงงานชาวโคราชเสียชีวิตในอิสราเอลสุดเศร้า กอดคอกันร่ำไห้ หลังร่างไร้วิญญาณกลับถึงบ้านเกิด แม่เผยลูกชายเคยบอก ไปทำงานที่อิสราเอลหรือไปทำที่ไหน ถ้ามันจะตาย อยู่ที่ไหนก็ตาย ตนก็บอกให้กลับบ้าน แต่ก็มาเกิดเหตุสูญเสียลูกชายเสียก่อน
จากเหตุการณ์ ยิงจรวดจากฝั่งเลบานอน ไปยังเมืองเมตูลา ทางเหนือของอิสราเอล ติดชายแดนเลบานอน เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้มีแรงงานชาวไทยเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ซึ่ง 2 ใน 4 รายเป็นแรงงานไทยชาว จ.นครราชสีมา ได้แก่ นายธนา ติจันทึก มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และนายกวีศักดิ์ ปาปะนัง มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งทั้งคู่ไปทำงานเก็บผลไม้และเป็นแรงงานด้านการเกษตรที่ประเทศอิสราเอลได้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่กลับมาเสียชีวิตจากระเบิด สร้างความเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวและญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก
ล่าสุด ค่ำวานนี้ (8 พ.ย.) นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอสีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้รับมอบหมายจาก นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นตัวแทนชาวจังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปรับร่างของนายธนา ติจันทึก ผู้เสียชีวิต ที่ถูกส่งกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยมีนางชภิญญา ทองสมจิตร ตัวแทนจากสำนักงานแรงงานจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเดินทางไปรับร่างผู้เสียชีวิตด้วย และเมื่อนำร่างนายธนา ฯ แรงงานที่เสียชีวิตมาถึงภูมิลำเนา ที่ บ้านเลขที่ 190 หมู่ 12 ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ครอบครัวและญาติต่างโผเข้าไปรับศพ ก่อนจะกอดคอกันร่ำไห้ด้วยความเศร้าเสียใจ
โดยนางจรูน ติจันทึก อายุ 75 ปี มารดาของนายธนา ฯ ผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายไปทำงนที่อิสราเอลได้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่งงานกับ นศ.ฉันทนา พดุงปาน อายุ 30 ปี ชาว ต.โนนสะอาด อ.ดอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ แต่ยังไม่มีลูกด้วยกัน ซึ่ง นศ.ฉันทนา ลูกสะใภ้ทำงานอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อทราบว่า ทางการกำลังส่งร่างลูกชายของตนกลับภูมิลำเนาในวันนี้ ลูกสะใภ้ก็เดินทางมารอรับที่นี่ด้วย ไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้าเลยว่าลูกชายจะเสียชีวิต และลูกชายก็ไม่ได้มาเข้าฝันตนเลย
แต่ลูกสาวอีกคนของตนบอกว่า เมื่อคืนวานนี้ นายธนา น้องชาย มาเข้าฝันบอกว่า “ฝากแม่ด้วยนะ และขอบคุณที่ดูแลจัดการงานศพให้” ซึ่งลูกชายเคยบอกกับตนไว้ว่า ไปทำงานที่อิสราเอลหรือไปทำที่ไหน ถ้ามันจะตาย อยู่ที่ไหนก็ตายแม่ ตนก็บอกให้กลับบ้าน แต่ก็มาเกิดเหตุสูญเสียลูกชายเสียก่อน ก็อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือเรื่องการจัดการศพและช่วยเหลือเยียวยาตามความเหมาะสมเพราะตนก็ชราภาพอายุมากแล้ว
ด้าน นศ.ฉันทนา พดุงปาน ภรรยาของนายธนา ผู้เสียชีวิต บอกว่า “ตนมั่นใจว่าสามีจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมาทราบข่าวการสูญเสีย ก่อนเสียชีวิตก็ไม่มีลางสังหรณ์บอกเหตุอะไร ในสัญญาจ้างงานมีกำหนดไปทำงานทั้งหมด 5 ปี ทำไปได้ 2 ปีกว่าแล้ว และจะกลับมาพักก่อน เมื่อครบ 3 ปีแรก จากนั้นค่อยกลับไปทำใหม่อีกรอบ ตนเคยบอกสามีตลอดว่า ถ้าสถานการณ์ไม่ปลอดภัยก็ให้รีบขอเดินทางกลับประเทศไทย แต่เพราะต้องกู้เงินเพื่อเดินทางไปทำงานที่นั่น ก็ต้องอดทนอยู่ให้ได้นานที่สุดเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุ หน่วยงานภาครัฐยังไม่ได้ประสานติดต่อให้ความช่วยเหลืออะไร มีแค่เรื่องการดำเนินเรื่องนำศพกลับประเทศและส่งกลับภูมิลำเนาที่ทางการให้ความช่วยเหลือทั้งหมด
ส่วนเรื่องการเยียวยาช่วยเหลืออื่นๆ ต้องรอทางการอิสราเอลแจ้งความช่วยเหลือกลับมาก่อน แต่งงานอยู่กินกับสามีมา 6 ปีแล้ว ตั้งใจจะสร้างครอบครัวด้วยกัน สามีจึงตัดสินใจไปทำงานที่อิสราเอล และตนก็มีลูกอยู่แล้ว 1 คน จึงยังไม่มีลูกด้วยกันกับสามีเพราะกลัวจะยิ่งลำบาก จึงจะสร้างครอบครัวให้พร้อมก่อนจึงค่อยมีลูกด้วยกัน
ขณะที่นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอสีคิ้ว กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้ตนลงพื้นที่สอบถามให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย และให้ความช่วยเหลือดูแลจนเสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2567 นี้ ซึ่งตนก็อยากฝากให้กำลังใจแรงงานไทยทุกคน รวมทั้งครอบครัวของแรงงานด้วย โดยเฉพาะแรงงานที่ต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งตนเข้าใจเจตนาของทุกคนว่า ต้องการจะหาเงินมาดูแครอบครัว
แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ เชื่อว่า ทุกคนย่อมเป็นกังวล และกำลังประเมินสถานการณ์อยู่เช่นกันว่า จะตัดสินใจอยู่ต่อหรือจะเดินทางกลับประเทศ ซึ่งเป็นสิทธิของทุกคน ก็ขอให้กำลังใจแรงงานทุกคน ทั้งนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงการต่างประเทศดูแลสิทธิต่างๆและการเยียวยาแรงงานไทย ซึ่งตัวแทนของกระทรวงแรงงานได้เข้ามาพูดคุยดูแลในเบื้องต้นแล้ว และจะประสานให้การช่วยเหลืออื่นๆ ต่อไป