ศูนย์ข่าวศรีราชา - เดือด! กลุ่มบริษัทผู้รับเหมานำหลักฐานวางบิลค่างวดงานแจ้งความตำรวจแหลมฉบัง เอาผิดอาญาถึงที่สุด UJ่V ผู้จัดการ ผู้กระทำการแทน ผู้รับเหมาหลักหรือผู้แทนและบุคคลเกี่ยวข้องฐานทุจริตหลอกลวง ไม่จ่ายค่าจ้างตามสัญญา ส่วนวันที่ 12 พ.ย.นำแรงงานกว่า 1,000 คน ยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (8 พ.ย.) ตัวแทนจากบริษัทผู้รับเหมาช่วงกว่า 20 บริษัท ได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้ายื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี กรณีถูกกลุ่มบริษัท UJV ที่ประกอบด้วย บริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd. และ Saipem Singapore Pte. Ltd. ซึ่งเป็นผู้รับเหมาช่วง (SUBCONTRACTOR) โครงการพลังงานสะอาด CFP โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ฐานหลอกลวง ไม่จ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้างก่อสร้าง
หรือจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่ตกลงกันตามสัญญา ทั้งที่รายละเอียดในสัญญาระบุว่า บริษัทผู้รับเหมาช่วงจะได้รับการจ่ายค่างานเป็นงวดๆ ตามความคืบหน้าของผลงานและสัญญาว่าจะจ่ายค่างวดงานนั้นๆ ภายใน 45 วัน หลังจากที่ผู้รับเหมาหลักได้รับมอบงานและรับการวางบิลค่างวดงานแต่ละงวดนั้นๆ ดังปรากฏในสัญญา
แต่เมื่อบริษัทได้ดำเนินการตามข้อตกลงในสัญญาและส่งมอบงานตามกำหนดครบถ้วน พร้อมตัวแทนผู้รับเหมาหลักได้ลงลายมือรับรองผลงานที่แล้วเสร็จในแต่ละงวดงานอย่างครบถ้วนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้รับเหมาหลักกลับยังไม่ยอมชำระเงินตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งล่วงเลยกำหนดจ่ายมาเป็นเวลานานเกินกว่า 45 วันแล้ว
โดยที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทผู้รับเหมาช่วงได้ส่งจดหมายทวงถามเป็นลายลักษณ์อักษรและยังติดต่อไปพบผู้รับเหมาหลักหลายครั้ง แต่ผู้รับเหมาหลักกลับไม่จ่ายเงินค่าจ้างงานตามสัญญา และให้เหตุผลต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรม เพื่อยื้อเวลาในการจ่ายเงินค่าจ้างตามสัญญา โดยอ้างเหตุว่าขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน
ทั้งๆ ที่ ไทยออยล์ได้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้ Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd. และ Saipem Singapore Pte. Ltd. อย่างครบถ้วนมาตลอด และยังมีบริษัทแม่ที่สามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd. และ Saipem Singapore Pte. Ltd. ได้ โดยห้ามบริษัทหยุดทำงาน เพราะจะเป็นการผิดสัญญา และต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้รับเหมาหลักตามสัญญา
และแม้ที่ผ่านมา บริษัทผู้รับเหมาช่วงได้นัดหมายเจรจาและมีตัวกลางไกล่เกลี่ยกับผู้รับเหมาหลักมาโดยตลอด แต่ผู้รับเหมาหลักยังคงยื้อเวลาและไม่ยอมชำระค่างวดงาน
โดยตัวแทนจาก 20 บริษัทผู้รับเหมาช่วงได้นำเอกสารงวดงานที่ผู้รับเหมาหลักผิดนัดชำระเงินตามสัญญา แนบสำเนาไว้เป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งแต่ละบริษัทมียอดเงินค้างจ่ายมากน้อยแตกต่างกันไป
นอกจากนั้น ยังได้นำหลักฐานข่าวประชาสัมพันธ์ ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ของบริษัท ไทยออย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระบุว่า “ไทยออยล์ได้ทราบข่าวมาจากผู้รับเหมาช่วงบางรายในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ.2567 ว่า UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem ไม่จ่ายเงินค่าตอบแทนให้บริษัทผู้รับเหมาช่วงบางรายรามกำหนด โดย UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem อ้างว่าขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน ทั้งๆ ที่ไทยออยล์ได้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem อย่างครบถ้วนมาโดยตลอด
และยังมีบริษัทแม่ที่สามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem” โดยไทยออยล์ขอยืนยันว่า ไทยออยล์ได้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem ตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา EPC อย่างครบถ้วนถูกต้องมาอย่างต่อเนื่อง แต่ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem ยังไม่จ่ายค่าตอบแทนค้างจ่ายให้บริษัทผู้รับเหมาช่วง”
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้กลุ่มบริษัทผู้รับเหมาช่วง เห็นว่าการกระทำของผู้รับเหมาหลักมีพฤติการณ์โดยทุจริตหลอกลวง ไม่จ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้างก่อสร้าง หรือโดยจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่ตกลงกันตามสัญญาแก่บริษัท และผู้รับเหมารายอื่นกว่า 20 ราย
จึงขอแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้รับเหมาหลัก ผู้จัดการ ผู้กระทำการแทนผู้รับเหมาหลัก หรือผู้แทนของผู้รับเหมาหลัก และบุคคลที่เกี่ยวข้องในการกระทำอันมีลักษณะเป็นความผิดทางอาญาจนถึงที่สุด
นายยุทธนา กาญจนารมย์ ฝ่ายประสานงานองค์กร CAZ เผยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทมานานหลายเดือนแล้ว และท้ายที่สุดบริษัทที่สายป่านเล็กอาจไปต่อไม่ไหวและแม้บริษัทที่มีสายป่านจะยังดำเนินการอยู่ได้แต่ว่าในระยะยาวกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมคงยาก เนื่องจากขณะนี้แรงงานที่มีทักษะฝีมือเริ่มแยกย้ายกันกลับบ้านและกว่าจะผลิตแรงงานที่มีทักษะฝีมือในโรงกลั่น หรือโรงปิโตรเคมีได้ต้องใช้เวลาพอสมควร
จึงอยากฝากให้รัฐบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกระทรวงพลังงาน ช่วยลงมาเร่งรัดปัญหาให้จบโดยเร็วที่สุด
เช่นเดียวกับ นายสุพจน์ สุรัตน์ ผู้จัดการโครงการ บริษัท ไทยโรตารี่ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) บอกว่าการรวมตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ของกลุ่มผู้รับเหมาช่วงในวันนี้เพื่อเป็นการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงความความเดือดร้อนที่กลุ่มแรงงานและผุ้ประกอบการที่ได้รับมาตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 67 และปัจจุบันความเดือดร้อนยาวนาน 7-8 เดือนแล้ว จึงอยากจะวิงวอนผู้มีอำนาจให้ช่วยผลักดันให้ปัญหาได้รับการแก้ไขเพราะมันเป็นเรื่องปากท้องของพี่น้องแรงงาน
12 พ.ย.นำแรงงานกว่า 1,000 คนเดินทางยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่าในเวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 12 พ.ย.2567 กลุ่มผู้รับเหมาช่วงที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเบี้ยวจ่ายค่างวดงานรวมเป็นเงินหลายพันล้านบาท จะนำแรงงานกว่า 1,000 คน ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทำกิจกรรมบูม PAY PAY PAT อย่างต่อเนื่องก่อนแยกย้าย
ส่วนในช่วงบ่ายผู้บริหารกลุ่มผู้รับเหมาช่วงจะเดินทางเข้าพับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมอีกด้วย