อุตรดิตถ์ – จับคาหนังคาเขา..กระบะขนไม้ประดู่เถื่อนออกจากป่าน้ำปาดเต็มคอกเหล็ก คนขับสารภาพเป็นไม้ตามออเดอร์นายทุน เตรียมลำเลียงส่งอยุธยา-อ่างทอง แลกค่าจ้าง 2 หมื่น
วันนี้(26 พ.ย.)นายฟารุต ใจทัศน์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า/สายตรวจอุทยานฯ -ตำรวจร้อย ตชด.316 สืบทราบว่า มีกระบวนการลักลอบตัดไม้ตามออเดอร์ จึงสั่งได้ดักซุ่มบริเวณบ้านมณีแก้ว หมู่ที่ 8 ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
กระทั่งพบ รถลักลอบขนไม้เคลื่อนออกจากป่าบ้านมณีแก้ว มาตามเส้นทางหลวงห้วยมุ่น -อ.ชาติตระการ พิษณุโลก จึงแสดงตัวและจับกุมเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ TOYOTA สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ฒช 6443 กทม. พบนายมานพ (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ขับรถยนต์
ตรวจสอบพบบรรทุกไม้ประดู่มาเต็มท้ายรถที่ติดคอกเหล็ก จำนวน 9 ท่อน ปริมาตร 3.90 ลบ.ม. โดยไม่มีเอกสารการอนุญาตและครอบครองไม้แต่อย่างใด บริเวณหน้าตัดไม้ไม่พบรูปรอยดวงตราราชการประทับ จึงตรวจยึดไม้และรถยนต์ที่ใช้ขนไม้พร้อมโทรศัพท์มือถือไว้เป็นของกลาง
จับค่าพิกัดบริเวณจุดเกิดเหตุปรากฎว่าอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าน้ำปาด” ท้องที่บ้านมณีแก้ว หมู่ที่ 8 ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ นอกเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จึงทำบันทึกกล่าวโทษตามคดีอาญาที่ 54/67 ยึดทรัพย์ที่ 36/67 ส่งสำนวนสถานีตำรวจภูธรเด่นเหล็ก
นายฟารุต ใจทัศน์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว กล่าวว่า ผู้ต้องหา คือ นายมานพ ให้การรับสารภาพว่าขนไม้มาจากห้วยปางแดง บ้านมณีแก้ว ซึ่งไม้เป็นออร์เดอร์ตามสั่ง เตรียมจะนำไปส่งปลายทางที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หรือ จ.อ่างทอง แต่ยังไม่ทราบสถานที่นำส่งไม้ที่แน่นอน นายทุนจะโทรแจ้งเป็นระยะๆ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ได้รับจ้างเที่ยละ 20,000 บาท
ส่วนคำถามที่ว่า ไม้ถูกตัดจากเขตอุทยานภูสอยดาวหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า ได้ตรวจสอบเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่พบตอไม้ หรือร่องรอยการชักลากหรือเส้นทางชักลากไม้จากพื้นที่อุทยานฯ แต่อย่างใด โดยไม้ของกลางคดีขณะนี้ได้เก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อต.6 (บ้านม่วง)