บุรีรัมย์ - รู้ว่าผิด กม.แต่ไร้หนทาง! หัวอกแม่อดีต ขรก.ครูชาวบุรีรัมย์จำใจจ้างช่างทำห้องกรงขังในบ้านพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก หวังรักษาลูกชายติดยาบ้าและพนันออนไลน์ ไม่ทำการงานขู่ขอเงินทุกวัน ไม่ได้ดั่งใจโวยวายทำลายข้าวของ คลุ้มคลั่งอาละวาดขับรถชนบ้านพัง ยิงปืนขู่ฆ่าแม่ ชาวบ้านผวากลัวถูกทำร้าย เผยเคยแจ้งจับส่งบำบัดหลายรอบออกมากลับสู่วังวนเดิม ล่าสุดบำบัดที่ รพ. จึงทำห้องเตรียมไว้พร้อมรอฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (4 พ.ย. 67) ทีมข่าวได้รับแจ้งว่ามีแม่คนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านกับลูกชายเพียง 2 คนในตำบลถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แต่ลูกชายติดยาเสพติดอย่างหนักแถมติดพนันออนไลน์ ไม่ทำการทำงานชอบขู่ขอเงิน วันไหนแม่ไม่มีเงินให้ก็จะโวยวายอาละวาดทำลายข้าวของ ขู่ฆ่า เคยขับรถพุ่งชนบ้านพัง ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 67 หลอนยาคลุ้มคลั่งอาละวาด แม่จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มานำตัวส่งบำบัดที่ รพ.นางรอง แต่กลัวว่าหากออกมาก็จะกลับไปเสพยาบ้าอีก เพราะที่ผ่านมาเคยแจ้งจับกรณีขับรถชนบ้านพัง แจ้งให้นำตัวส่งบำบัด ทั้งที่ค่ายทหาร รพ. และวัดมากกว่า 10 ครั้ง แต่พอเริ่มดีขึ้นถูกปล่อยออกมาอยู่บ้านก็กลับสู่วังวนเดิมทั้งเสพยา เล่นพนันออนไลน์ ทำให้แม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวงและทุกข์ทรมานใจ
ล่าสุดจึงจำใจจ้างช่างมาทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งไวไฟ ทีวี และห้องน้ำส่วนตัว หากลูกออกจาก รพ.ครั้งนี้ก็ตั้งใจจะให้ลูกอยู่ในห้องดังกล่าวที่ทำเตรียมเอาไว้ เพราะอยากให้ลูกหายจากการติดยาเสพติด ทั้งเพื่อความปลอดภัยของแม่เอง และความปลอดภัยของชาวบ้านในหมู่บ้านด้วย เพราะกลัวว่าถ้าเขาเสพยาหลอนหนักอาจไปทำอันตรายคนอื่น แต่ก็ยังรอทำประชาคมรับฟังเสียงส่วนใหญ่จากชาวบ้านรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าสามารถทำได้หรือไม่
จากนั้นทีมข่าวพร้อมหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว ก็พบกับนางสารภี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ ก็พาเข้าไปดูห้องที่จ้างช่างมาทำภายในบ้าน ซึ่งมีลักษณะคล้ายห้องควบคุมผู้ต้องหาในโรงพัก แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งไวไฟ ทีวี พัดลม ห้องน้ำส่วนตัว และติดกล้องวงจรปิดด้วย
นางสารภีเล่าให้ฟังว่า นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ลูกชาย เริ่มติดยาเสพติดตั้งแต่อายุ 16 ปี พ่อกับแม่ต้องส่งตัวบำบัดรักษามาตลอด แต่ออกมาก็ไปเสพอีก ซ้ำยังติดพนันออนไลน์ พ่อก็พยายามหางานให้ลูกทำได้เงินมาก็เอาไปซื้อยาบ้าเสพ เล่นพนันหมด แล้วชอบขู่บังคับขอเงินพ่อแม่ครั้งละ 100-200 บาท บางวันขอ 3 รอบทั้งเช้า เที่ยง เย็น กระทั่งเมื่อปี 2558 พ่อป่วยหนักทั้งเครียดเรื่องลูกจนตรอมใจตาย แต่ลูกก็ไม่ได้รู้สึก ยังเสพยาเล่นพนันมาเรื่อย ไม่ทำการทำงาน ขอแต่เงินไปซื้อยา เล่นพนัน เคยมีลูกเมียแต่เขาก็ทนอยู่ด้วยไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาถึงขั้นใช้ปืนยิงขู่ ขับรถพุ่งชนบ้านพัง แม่ก็ต้องแจ้งจับ แต่ออกมาก็ไม่สำนึกยังทำตัวเหมือนเดิม ไม่รู้จะทำยังไง
คนเป็นแม่ทั้งรักและเป็นห่วงลูกอยากให้ลูกเลิกยาเสพติดกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็หมดหนทางจำใจจ้างช่างมาทำห้องคล้ายกรงขังเพื่ออยากให้ลูกหาย ลูกอยากได้อะไรอยากกินอะไรก็จะหาให้ขอแค่ไม่ให้ออกไปเสพยาเสพติด เล่นพนันอีก ก็รู้ว่าผิดกฎหมายแต่หมดหนทางจริงๆ ก็ยังรอฟังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าทำได้หรือไม่หากไม่ได้จะแก้ปัญหาอย่างไร
ทั้งอยากฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยว่า อยากให้ปราบปรามยาเสพติด การพนันออนไลน์ และอบายมุขทุกประเภท ซึ่งเป็นต้นเหตุทำลายเยาวชนของชาติ เพราะเชื่อว่ามีหลายครอบครัวที่ประสบชะตากรรมเหมือนตนเองแต่ทำอะไรไม่ได้
จากนั้นทีมข่าวได้ไปสอบถาม นายพลวัฒน์ สงกูล ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง บอกว่า ก่อนหน้านี้เขาอาศัยอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่หลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่แม่ซึ่งเป็นครูก็เคยมาแจ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกชาย และมีการส่งบำบัดอยู่ 2 ครั้ง ส่วนกรณีที่แม่จ้างช่างไปทำห้องลักษณะคล้ายกรงขัง เพื่อเตรียมไว้ให้ลูกชายซึ่งปัจจุบันบำบัดอยู่ที่ รพ.นั้น ตนได้ยินข่าวอยู่แต่ยังไม่ได้เดินทางไปดูว่าเขาทำลักษณะไหนบ้าง แต่จะทำได้หรือไม่ก็ต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ ว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะอาจเข้าข่ายการกักขังหน่วงเหนี่ยว
โดยส่วนตัวแล้วเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ แต่การจะทำอะไรต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งก็จะได้รายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อเข้าไปตรวจสอบและพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร