บุรีรัมย์ - เปิดใจสาวบุรีรัมย์ในคลิปหมั้นออนไลน์ข้ามประเทศกลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล มียอดคนเข้าชมเกือบ 6 ล้านคน หลังหนุ่มโคราชให้พ่อแม่หอบสินสอดทั้งเงินสดและสร้อยคอทองคำไปหมั้นสาวคนรักที่คบหาดูใจกันได้ 3 เดือน ก่อนเดินทางไปทำงานไต้หวัน จึงต้องหมั้นกันทางออนไลน์ผ่านวิดีโอคอล มีแพลนแต่งงานต้นปี 68 เมื่อฝ่ายชายเดินทางกลับไทย
วันนี้ (4 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ "นุ่น ลูกสาวชาวนา" ได้โพสต์คลิปงานหมั้นที่กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล เพราะเป็นการหมั้นแบบออนไลน์เพราะทั้งสองฝ่ายอยู่ไกลกันข้ามประเทศ มีผู้เข้าไปชมคลิปเกือบ 6 ล้านคน โดยคลิปงานหมั้นออนไลน์ข้ามประเทศดังกล่าวเป็นการหมั้นระหว่างหนุ่มชาว จ.นครราชสีมา ที่ทำงานอยู่ประเทศไต้หวัน ได้ให้พ่อแม่นำสินสอดทั้งเงินสดและสร้อยคอทองคำไปหมั้นสาวคนรักชาว จ.บุรีรัมย์ ด้วยการวิดีโอคอลขณะทำพิธีหมั้นเพราะฝ่ายชายอยู่ไกลต่างแดน หลังจากคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีคนเข้าชมเกือบ 6 ล้านคน และแสดงความยินดีกับทั้งคู่เป็นจำนวนมาก
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปสอบถามเจ้าของคลิป คือ นางสาวพัฐสุดา ปราบงูเหลือม หรือนุ่น อายุ 27 ปี ชาวอำเภอปะคำ จ.บุรีรัมย์ ว่าที่เจ้าสาว เจ้าของช่อง “นุ่นลูกสาวชาวนา” ทั้งเฟชบุ๊ก ติ๊กต็อก และยูทูบ มีผู้ติดตามเกือบล้านคน เล่าให้ฟังว่า ตนเรียนจบปริญญาตรี เอกวิชาภาษาจีน ตอนแรกก็ตั้งใจจะไปสอบเป็นครูสอนภาษาจีน แต่เนื่องจากเป็นลูกสาวคนเดียวถ้าสอบติดต่างจังหวัดไกลๆ ก็เป็นห่วงพ่อแม่ จึงตัดสินใจช่วยงานพ่อกับแม่ที่บ้าน ซึ่งครอบครัวทำอาชีพเกษตรกรทั้งปลูกข้าว ปลูกอ้อย และปลูกมัน พ่อกับแม่ก็อยากให้ดูแลต่อด้วย จึงตัดสินใจทำเกษตรช่วยพ่อแม่ที่บ้าน
เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน นายจิรวัฒน์ พินิจน้อย หรือฟิล์ม อายุ 22 ปี เป็นชาว จ.นครราชสีมา ได้ทักแชตมาหาบอกว่าเป็น FC ของแม่ ตอนแรกก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันมาก เพราะมักจะมี FC ที่ติดตามทักมาบ่อยๆ แต่พอเขาทักมาอีกจึงเริ่มคุยแชตกันมาเรื่อย และช่วงที่เดินทางไปเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงมีโอกาสได้เจอกัน ซึ่งเขาบอกว่ากำลังจะเดินทางไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน จึงได้พาเขาไปทำพาสปอร์ต
หลังจากนั้น 1 สัปดาห์เขาเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน ก็ยังติดต่อคุยกันผ่านแชตและวิดีโอคอลเกือบทุกวันราว 3 เดือน ก็มีหลายอย่างที่ตรงกันโดยเฉพาะทำเกษตรเหมือนกัน กระทั่งฝ่ายชายบอกว่าจริงจังอยากจะขอหมั้นหมายไว้ก่อน ตนเห็นในความมุ่งมั่นของฝ่ายชายจึงตอบตกลง
จากนั้นวันที่ 30 ต.ค. 67 ที่ผ่านมาเขาให้พ่อแม่เขาซึ่งอยู่ที่ จ.นครราชสีมานำเงินสด 30,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท มาหมั้นหมายตนเองที่บ้านแม้ฝ่ายชายจะยังอยู่ที่ไต้หวัน จึงได้ทำพิธีหมั้นแบบออนไลน์ผ่านวิดีโอคอล แม้จะเป็นพิธีเล็กๆ และฝ่ายชายจะอยู่ที่ไต้หวันแต่ก็เป็นไปด้วยความอบอุ่น และมีการพูดคุยแพลนกันไว้ว่าจะแต่งงานกันต้นปี 2568 เมื่อฝ่ายชายเดินทางกลับมา ทุกวันนี้ก็มีการแชตและวิดีโอหากันตลอด
ทั้งนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายจิรวัฒน์ หรือฟิล์ม คู่หมั้นของน้องนุ่น ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ที่ประเทศไต้หวัน บอกว่า เมื่อได้พูดคุยกับนุ่นสักระยะหนึ่งก็มีอะไรหลายอย่างที่ชอบเหมือนๆ กัน นิสัย ทัศนคติคล้ายกัน ชอบทำเกษตรเหมือนกัน รู้สึกรักและจริงใจ จึงตัดสินใจให้พ่อแม่ไปหมั้นหมายไว้ก่อน และมีแพลนจะแต่งงานกันปีหน้า
ด้าน นางสุคนธ์ ปราบงูเหลือม แม่ของนุ่น บอกว่า ลูกสาวเรียนจบสายครูพ่อแม่ก็ดีใจ แต่ก็แอบเป็นห่วงว่าถ้าลูกสอบติดจังหวัดไกลๆ จึงคุยกับลูกว่าอยากให้ลูกช่วยงานภาคการเกษตรของครอบครัว ซึ่งลูกสาวก็ไม่ปฏิเสธเขาก็ทำงานเกี่ยวกับเกษตรช่วยพ่อแม่มาตลอด ทั้งขับรถเกี่ยวข้าวเอง ทั้งสงสารแต่ก็ภูมิใจในตัวลูกสาว
ส่วนเรื่องที่ลูกสาวคบหาดูใจและหมั้นหมายกับฝ่ายชายไว้ เห็นลูกมีความสุขพ่อแม่ก็ดีใจกับลูกด้วย เท่าที่ดูฝ่ายชายนิสัยดีขยันทำมาหากิน ก่อนหน้านี้ลูกสาวพูดเล่นๆ กับแม่ว่าอยากมีคนมาช่วยงานเกษตรของครอบครัวหรือไม่ แม่คิดว่าลูกสาวพูดเล่น ไม่คิดว่าพ่อแม่ฝ่ายชายจะมาหมั้นหมายจริงๆ เพราะฝ่ายชายยังทำงานอยู่ไต้หวัน แต่เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของว่าที่ลูกเขย