ลำปาง - ต่อยอดไม่สิ้นสุดจริง.. “แกงฮังเล” เมนูรสชาติที่หายไปของลำปาง ร้านเด็ดเชฟดังงัดสูตรเด็ดก้นครัว รังสรรค์เมนูใหม่สร้างมูลค่าเพิ่มอาหารถิ่น ไม่เว้นแม้แต่ร้านอาหารญี่ปุ่น ล่าสุดได้ “เตี๋ยวแกงฮังเล” ฟิวชั่นลูกผสมสุดลงตัว แถมมี “ข้าวหน้าปลาดุกราดซอส” แทนปลาไหลนำเข้าอีก
หลังเมนู “แกงฮังเล” ซึ่งเป็นอาหารถิ่น ได้รับการโหวตอันดับ 1 เมนูรสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste อาหารถิ่นของจังหวัดลำปาง ประจำปี 2567 ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food)
วันนี้..ร้านอาหารหลายแห่งในลำปางต่างนำเมนู “แกงฮังเล” สูตรก้นครัวของตัวเองออกมาปรับให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน หรือที่เรียกว่าอาหารฟิวชั่นใหม่ของร้าน ไม่เว้นแม้แต่ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น อย่างร้าน “โนริซูซิ” ซึ่งตั้งอยู่ในโซนตลาดอัศวิน เทศบาลนครลำปาง ร้านแห่งนี้ได้ตกแต่งให้มีกลิ่นไอของญี่ปุ่นตั้งแต่หน้าร้านและภายในร้านทั้งหมด มีชุดญี่ปุ่นทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ให้กับลูกค้าที่มานั่งทานในร้านแล้วอยากให้มีบรรยากาศเหมือนนั่งทานอาหารอยู่ญี่ปุ่น ก็สามารถเปลี่ยนชุดและมานั่งทานพร้อมมีพร็อบสำหรับถ่ายรูปให้กับลูกค้าพร้อมสรรพ
และร้านโนริซูซิ ยังมีเชฟฝีมือดี อย่าง “เซฟเอ” หรือ สุวิทย์ อาภากาศ เชฟเจ้าของร้านผู้ปรุงอาหารเองทุกเมนูให้กับลูกค้า ล่าสุดได้นำแกงฮังเล ซึ่งเป็นอาหารพื้นถิ่นลำปางสูตรของร้านที่ใช้เนื้อหมูสันนอกและขา ทำให้แกงฮังเลไม่มีมัน นำมาทำเป็นอาหารฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่น คือ “ก๋วยเตี๋ยวแกงฮังเล”
ซึ่ง “ก๋วยเตี๋ยวแกงฮังเล” เชฟเอ ร้านโนริซูซิ เลือกใช้ “เส้นโซบะขาว” และ เส้นสัญลักษณ์ลำปาง นั่นคือ “เส้นเปียก” ราดด้วยแกงฮังเล ทานพร้อมด้วยกู้งเทมปูระทอด-ไข่กุ้ง รสชาติเข้ากันได้ดีมาก เด็กๆทานได้เพราะแกงจะไม่เผ็ด หวานนิดๆกลมกล่อม ซึ่งลูกค้ามักจะแวะเวียนเข้ามาลองชิมเมนูนี้
นอกจากนี้ทางร้านยังมีอีก 1 เมนู ที่น่าลิ้มลอง นั่นคือ “ข้าวหน้าปลาดุกย่างราดซอสญี่ปุ่น” ซึ่งถือว่านำมาทดแทนปลาไหลได้เลย นอกจากเนื้อหนังจะกรอบ หอม นุ่มแล้ว ยังราคาถูกกว่าปลาไหลที่นำเข้ามามากเลยทีเดียว
เชฟเอ บอกว่าตนลองนำมาทำแล้วรู้สึกชอบเพราะรสชาติดี และไม่มีกลิ่นเหมือนปลาไหลและเป็นปลาน้ำจืดของบ้านเราด้วย โดยจะเอาแต่เนื้อปลาดูกนำมาบ่มแห้งไว้ 5 วัน ก่อนที่จะนำมาย่างกับซอสญี่ปุ่น สำหรับปลาที่เตรียมไว้ก็ต้องนำมาบรรจุใส่ถุงสูญญากาศแช่เย็นไว้เพื่อให้เนื้อปลาอยู่ตัว เวลานำมาย่างซอสแล้วเนื้อจะนุ่มฟูอร่อยหนังจะกรอบมาก ส่วนซอสที่ราดก็เป็นสูตรของทางร้านที่ปรุงสูตรเอง ซึ่งอยากให้ลูกค้าลองมาชิมทั้ง2เมนูนี้ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน