ตาก - เครือข่ายช่วยเหยื่อค้ามนุษย์ ร้องถึง “นายกฯอุ๊งอิ๊งค์”..แฉมาเฟียจีนเทา ใช้โซเชียลฯลวงเหยื่อ 9 สัญชาติ ไม่ต่ำกว่า 110 คน ส่งเดินทางผ่านแม่สอด-กักขัง/บังคับทำงานชายแดนเมียนมา ด้าน ตม.ตาก ยืนยันถามแต่ละคนบอกมาเที่ยวเหมือนกันหมด
Kritiya J. ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ได้ทำหนังสือลงวันที่ 24 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ร้องถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุถึงสถานการณ์วิกฤตเกี่ยวกับเหยื่อการค้ามนุษย์ 110 คนจาก 9 สัญชาติ ซึ่งปัจจุบันติดอยู่ในพื้นที่ที่ควบคุมของกองกำลังชนกลุ่มน้อย DKBA และ BGF ในพม่า ต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
เหยื่อเหล่านี้ถูกหลอกโดยกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อล่อเหยื่อด้วยงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงในประเทศไทย โดยอํานวยความสะดวกในเอกสารการเดินทางและครอบคลุมค่าใช้จ่าย แต่เมื่อเดินทางมาถึง เหยื่อถูกค้ามนุษย์และถูกบังคับให้ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายเข้าสู่พม่าผ่าน อ.แม่สอด จ.ตาก โทรศัพท์ถูกยึด-ถูกบังคับให้เป็นทาสหนี้ เผชิญกับการแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงาน การล่วงละเมิดทางร่างกายอย่างรุนแรง และถูกคุมขังเพื่อเรียกค่าไถ่
หนังสือดังกล่าวระบุอีกว่า กลุ่มมาเฟียจีนใช้ประโยชน์จากอําเภอแม่สอดโดยเฉพาะในฐานะศูนย์กลางการขนส่งสําหรับเหยื่อการค้ามนุษย์จากประเทศต่างๆ เข้าสู่พม่า โดยใช้ประโยชน์จากพรมแดนร่วมกันริมแม่น้ําเมย พื้นที่นี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มติด กองกําลังรักษาการณ์ชายแดน (BGF) และกองทัพกะเหรี่ยงพุทธ (DKBA) ทําให้การดําเนินการช่วยเหลือมีความซับซ้อนและสร้างความท้าทายที่สําคัญสําหรับประเทศที่ตกเป็นเหยื่อ
เหยื่อจํานวนมากสามารถติดต่อครอบครัวและสถานทูตเพื่อขอความช่วยเหลืออย่างลับๆ และได้ประสานงานกับเครือข่ายของเราเพื่อขอความช่วยเหลือ มันยากขึ้นเรื่อย ๆ สําหรับประเทศไทยที่จะหลบเลี่ยงความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาที่ถูกละเลยมานานนี้
ตามรายงานที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม 2024 โดยสถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา กลุ่มอาชญากรในกัมพูชา ลาว และพม่ากําลังขโมยเงินประมาณ 43.8 พันล้านดอลลาร์ต่อปีผ่านการหลอกลวง ซึ่งเท่ากับประมาณ 1.53 ล้านล้านบาทไทย กลุ่มอาชญากรเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจโลกผ่านการฉ้อโกงและการหลอกลวงออนไลน์ที่อาละวาดเท่านั้น แต่ยังคุกคามชีวิตและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อีกด้วย
เมื่อพิจารณาจากการเลือกตั้งล่าสุดของประเทศไทยในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ในปี พ.ศ. 2568-2570 นี่เป็นช่วงเวลาสําคัญสําหรับประเทศที่จะสนับสนุนปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสําหรับเหยื่อ และประสานความพยายามในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-พม่า
ด้าน พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.ตม.จว.ตาก เปิดเผยว่า กรณีชาวต่างชาติที่ถูกทรมานและทำร้ายร่างกายนั้น ตม.จว.ตาก ได้ตรวจสอบ และมีมาตรการในการสัมภาษณ์-แจ้งเตือนชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพื้นที่ อ.แม่สอด ที่อาจถูกหลอกไปทำงานยังฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งอาจจะตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์มาตลอด
โดยจุดตรวจบ้านห้วยหินฝน ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ได้ติดแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์และซักถามชาวต่างชาติรายนั้นๆ เดินทางมาทำอะไรในพื้นที่ อ.แม่สอด ซึ่งที่ผ่านมา ชาวต่างชาติที่มีลักษณะวัยรุ่นและคนผิวสี ทุกรายตอบกับเจ้าหน้าที่ ตม. ว่า "มาเที่ยว" ไม่เคยมีรายไหนที่แจ้งว่า "ถูกชักชวนมาทำงาน"
แต่ทั้งนี้ หากมีชาวต่างชาติขอรับความช่วยเหลือ และหลบหนีกลับเข้ามายังฝั่งราชอาณาจักรไทย หน่วยงานความมั่นคง พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ นำเข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism - NRM)
