สลด! หนุ่มอุดรฯ ถูกจรวดเสียชีวิตที่อิสราเอลในวันเกิดลูก ขณะลูกชายส่งคลิปขอคำอวยพรแต่ยังไม่ได้อ่าน

อุดรธานี - เศร้าสลด! พ่อตายในวันเกิดลูก เปิดคลิปเสียงลูกชายขอคำอวยพรวันเกิดจากพ่อที่ทำงานอิสราเอล
เช้าวันต่อมาครอบครัวได้ข่าวเศร้า พ่อถูกจรวดระเบิดเสียชีวิพร้อมเพื่อนคนงาน แม่เผยลูกเป็นคนขยัน วอนเอาศพลูกกลับมาทำพิธีให้ได้


จากกรณีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์โจมตีภาคเหนือของอิสราเอล 2 ระลอก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ ซึ่งสื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีแรงงานไทย 4 ราย เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ บริเวณเมืองเมตูลา ทางเหนือของอิสราเอลติดชายแดนเลบานอน และจากการตรวจสอบพบว่า 1 ใน 4 ราย เป็นแรงงานชาวจังหวัดอุดรธานี เบื้องต้นทราบว่านายจ้างได้ขออนุญาตนำแรงงานไทยเข้าไปในพื้นที่ เป็นระยะเวลาสั้นๆ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งกองทัพอิสราเอลอนุญาต

ล่าสุดวันนี้ (1 พ.ย.) หลังทราบข่าวผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต ที่ บ.ดงหมากหลอด ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี พบว่าเพื่อนบ้านที่ต่างทราบข่าวเดินทางมาสอบถามและให้กำลังใจกับกับพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต และในวันเดียวกันแรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัดอุดรธานี ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจพร้อมสอบถามข้อมูลเพื่อหาทางช่วยเหลือเยี่ยวยา

นางบุญแปง ววรณไสย อายุ 56 ปี แม่ของนายอัครพล แรงงานที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกชายไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้ 4 ปี ทำงานเกษตรกรในสวนผลไม้ ทุกปีจะกลับมาเยี่ยมบ้าน หลังสงครามอิสราเอลช่วงเดือนตุลาคมปี 2566 ลูกชายก็เดินทางกลับมาบ้าน แล้วก็เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลใหม่ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2566 ตนทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิตก็เมื่อวานตอนเย็น เพื่อนของลูกที่อิสลาเอล ฝากบอกกันมาอีกที โดยเขาบอกว่า “โจกับนายจ้างถูกระเบิด ตอนนี้ก็ขอให้แม่รอทางสถานทูตแจ้งความคืบหน้าอีกครั้ง” ไม่อยากได้ยินคำนั้น ทำอะไรไม่ถูก หัวใจหล่นลงไปถึงตาตุ่ม


สำหรับลูกคนนี้เป็นคนขยันทำงานตลอด อยู่ที่ประเทศไทยก็ทำงานไม่เคยออกไปเที่ยวเล่นที่ไหนเลย ไปทำงานต่างประเทศก็เก็บเงินมาสร้างบ้าน ซื้อรถ ลูกกำลังจะตั้งหลักหาเงินสักก้อนกลับมาอยู่บ้าน แต่ลูกก็มาเสียชีวิตก่อน ตอนนี้ทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องก็เดินทางมาแจ้งสิทธิ์และแสดงความเสียใจแล้วส่วนศพของลูกชายนั้นตนอยากได้ศพมาทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้าน อย่างไรก็ตามต้องรอการยืนยันจากสถานทูตอีกครั้งหนึ่งว่าศพของลูกชายจะเดินทางมาวันไหน

นางบุญแปงเล่าอีกว่า วันที่ลูกเสียชีวิตวันนั้น ก็เป็นวันเกิดของหลานซึ่งเป็นลูกชายเขา หลานอัดคลิปเสียงส่งข้อความไปหาพ่อเขาที่ทำงานอิสราเอล แต่พ่อก็ไม่อ่านข้อความและตอบกลับ กระทั่งรู้ข่าวว่าลูกเสียชีวิต ทั้งนี้ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิตนั้น 4-5 วัน ตนก็ฝันว่ามีเครื่องบินตก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นลางสังหรณ์ “หากดวงวิญญาณของลูกชายรับรู้ได้ อยากจะบอกโจว่า ลูกคือดวงใจของแม่ ไม่รู้แม่จะอยู่ไปได้นานแค่ไหน พูดไปคิดไปก็เอาชีวิตลูกชายกลับคืนมาไม่ได้”

ในคลิปเสียง ลูกชายได้อัดเสียโดยพูดเป็นภาษาอีสานว่า “ป๋าโจ้คึบ่โทรหาบักหล้าแหน่ขั้นเฮ็ดงานก็บอกแหน่ คึดฮอดเด วันเกิดบักหล่านำ คึบ่อวยพรให้บักหล่าจั้กคำเว้าจั้กคำแหน่ ให้บักหล่าได้ซึ้งใจ บักหล่ากินเนื้อย่างนำหมู่” (แปลเป็นภาษากลางว่า พ่อทำไมไม่โทรหาลูกหน่อยถ้าทำงานอยู่ก็ขอให้บอก วันนี้วันเกิดทำไมพ่อไม่อวยพรให้ลูกสักคำพูดสักคำให้ลูกได้ซึ้งใจ ลูกกินเนื้อย่างกับเพื่อน)


ด้านว่าที่ร้อยโทอนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุและรู้ข่าวว่ามีแรงงานไทยชาวอุดรธานีเสียชีวิต กระทรวงแรงงานได้สั่งการลงพื้นที่ตรวจสอบและปรากฏว่า แรงงานชาวไทยชาวอุดรธานี ชื่อนายอัครพล วรรณไสย อายุ 29 ปี เคยทำงานโดยรัฐจัดส่งตั้งแต่ปี 2563 และเดินทางกลับมาเดือนตุลาคม 2567 ช่วงที่เกิดภัยสงครามปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้รับสิทธิประโยชน์ค่าชดเชยต่างๆ กรณีภัยสงคราม เงินสงเคราะห์ ที่รัฐบาลได้มอบให้ กลับมาอยู่บ้านได้ไม่นานก็เดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีกครั้ง

ซึ่งจากข้อมูลตรวจสอบแล้วไม่ปรากฏว่าแรงงานคนนี้เดินทางไปกลับไปที่ประเทศอิสราเอล ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ทราบไม่มีข้อมูลเลย มารู้อีกทีเขาก็เสียชีวิตแล้ว




สำหรับสิทธิประโยชน์กรณีผู้เสียชีวิตนั้น ต้องรอร่างเขากลับมาถึงประเทศไทย ทางเราก็จะได้มีการรวบรวมหลักฐาน เพื่อให้กรมการจัดหางานเป็นผู้วินิจฉัยอีกครั้งหนึ่ง ว่าเขายังคงมีสิทธิ์ที่จะได้รับ เงินจากกองทุนช่วยเหลือคนหางานหรือไม่ จะได้รับเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพหรือไม่อีกครั้ง ส่วนที่สิทธิประโยชน์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศอิสราเอล ตนเชื่อว่าประเทศอิสราเอลน่าจะช่วยเหลือ ในเรื่องสิทธิประโยชน์ตามระเบียบ

สำหรับผู้เสียชีวิตแรงงานไทย 4 ราย ได้แก่ นายอรรคพล วรรณไสย มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.อุดรธานี นายประหยัด พิลาศรัมย์ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ นายธนา ติจันทึก มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา และ นายกวีศักดิ์ ปาปะนัง มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา