หนองคาย-ตำรวจหนองคาย ตามรวบหัวขโมยงัดบ้านยกตู้เซฟสาวเมืองหนองคายหนีหายคืนออกพรรษา ขนทองไปขายทั้งทองแท่ง รูปพรรณ ยังเหลือทองเจ้าทุกข์อีก 60 บาท หนีเที่ยวเชียงใหม่ มาเที่ยวเลย จนมุมขณะเข้าพักโรงแรมที่เชียงคาน ค้นบ้านพบชุดเครื่องแบบทหารติดยศร้อยเอก อ้างเอาไว้ขู่ชาวบ้าน
จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชายแต่งกายมิดชิดงัดเข้าไปในบ้านเลขที่ 333/90 เคียงเมือง 2 หมู่ 11 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย ขโมยตู้เซฟใส่รถเข็นหลบหนี ซึ่งภายในมีทรัพย์สินทั้งเงินสด ทองรูปพรรณ ทองคำแห่ง หลายรายการ มูลค่ากว่า 6-7 ล้านบาท เหตุเกิดคืนวันที่ 17 ต.ค. 67 หลังเกิดเหตุเจ้าของบ้านได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองหนองคาย
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย แจ้งว่า ได้ทำการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ทราบชื่อ นายพิธาร สายรัตนทองคำ อายุ 33 ปี โดยเจ้าหน้าที่ออกหมายจับและติดตามจับกุมนายพิธาร ได้ขณะเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เชียงคาน จ.เลย จึงได้ควบคุมตัวกลับมาหนองคาย และในวันนี้ (1 พ.ย.67) พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย ได้ควบคุมตัวไปค้นบ้านเลขที่ 343/1 หมู่ 11 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย โดย พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ท.พุฒิชัย จันทร์ทอง รองผกก.(สส.)สภ.เมืองหนองคาย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งพบว่ามีการนำทรัพย์สินที่อยู่ในตู้เซฟ อาทิ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ โทรศัพท์มือถือ ซุกซ่อนไว้ภายในบ้าน
นอกจากนี้ยังพบชุดเครื่องแบบทหาร ติดยศร้อยเอก อยู่ภายในบ้าน ซึ่งนายพิธาร อ้างว่า เคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อนและหาซื้อชุดเครื่องแบบไว้ใส่ข่มขู่คนอื่น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบสวนของพ่อตานายพิธาร ห่างจากบ้านผู้เสียหายประมาณ 4 กิโลเมตร เนื่องจากนายพิธารได้นำตู้เซฟมาเปิดเอาทรัพย์สิน แล้วทิ้งตู้เซฟลงไปในบ่อปลาภายในสวน และยังได้ทำการฝังทองคำส่วนหนึ่งไว้ใต้ต้นไม้ภายในสวนด้วย
เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันงมหาตู้เซฟจนพบและขุดเจอทองที่ซุกซ่อนไว้ นำไปประกอบสำนวนคดี โดยยังเหลือทองของผู้เสียหายที่ยังไม่ได้ถูกนำไปขายอีกประมาณ 60 บาท
จากการสอบสวนทราบว่า หลังเกิดเหตุเช้าวันรุ่งขึ้น นายพิธาร ได้นำทองคำแท่ง 2 แท่ง ไปขายยังร้านทองในพื้นที่ อ.โพนพิสัย จากนั้นได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตระเวนนำทองส่วนหนึ่งไปขายที่กรุงเทพฯ รวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนมของผู้เสียหาย นายพิธารหวังจะนำไปขายแต่ขายไม่ได้เพราะไม่มีใบเซอร์ เมื่อได้เงินจำนวนหนึ่งแล้วก็ตระเวนไปเที่ยวต่างจังหวัด ทั้งกรุงเทพ เชียงใหม่ ก่อนจะมาแวะเที่ยวเชียงคาน จ.เลย แต่ระหว่างที่จะเข้าพักโรงแรม ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ก็ตามจับไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า คดีนี้เกิดจากผู้ต้องหาเกิดความโลภในทรัพย์สินอยากได้เป็นของตัวเอง ประกอบกับตกงาน ไม่มีงานทำ จึงคิดสั้นก่อเหตุขโมย ย่องขึ้นบ้านผู้เสียหาย 3 ครั้ง เพราะเห็นว่ามีรถยนต์หลายคัน ครั้งแรกได้ขโมยกระเป๋าไปก่อน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ผู้ต้องหาไม่แตะต้องทรัพย์สินอื่นนอกจากตู้เซฟ วันนี้ติดตามยึดของกลางคืนได้เป็นทองรูปพรรณ 30 บาท ทองคำแท่ง 18 บาท สร้อยทอง 2 เส้น พระเลี่ยมทอง 3 องค์ แหวนเพชร 3 วง หลังจากนี้จะสอบปากคำผู้เสียหายว่าของกลางได้คืนครบหรือไม่ ต้องนำหลักฐานมาแสดงรายละเอียดทรัพย์สินเพื่อดำเนินการต่อ
ซึ่งต้องขอบคุณตำรวจทุกนายที่ให้ความร่วมมือติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ขอให้ประชาชนดูแลทรัพย์สินของตัวเองหากอยู่บ้านจัดสรรขอให้ รปภ.หมู่บ้านตรวจสอบเวรยามอย่างดี เจ้าของบ้านเองก็ต้องเก็บทรัพย์สินของตัวเองให้ดี อยากให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด หากเป็นไปได้ให้นำมาเชื่อมข้อมูลกับตำรวจเพื่อช่วยตรวจสอบได้ทันที