อุดรธานี - ช็อกวันฮัลโลวีน! หนุ่มวัยเบญจเพส ทำงานเวรเปล รพ.อุดรฯ ตัดสินใจดิ่งตึกสูง 5 ชั้นดับอนาถ ขณะที่แฟนสาวกำลังตั้งครรภ์ 2 เดือน เผยไม่รู้แฟนหนุ่มเครียดด้วยสาเหตุใด ไม่เคยปริปากปัญหาให้ฟัง วางแผนผูกแขนแต่งงานกันเดือนหน้า
วันนี้ (31 ต.ค.) ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 จ.อุดรธานี รับแจ้งจากประชาชนว่า เกิดเหตุคนกระโดดตึกสูง 5 ชั้น ตอนนี้กำลังนอนหายใจรวยริน หลังรับแจ้งได้สั่งการให้ทีมกู้ชีพกู้ภัยโรงพยาบาลอุดรธานี ออกไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ที่เกิดเหตุเป็นแฟลตการเคหะแห่งชาติ 5 ชั้น บริเวณหน้าทางขึ้นอาคารพบชายนอนหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ทำการปั๊มหัวใจยื้อช่วยชีวิต แต่ชายรายดังกล่าวได้เสียชีวิตลงเพราะเสียเลือดมาก
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายฐนกร วีระบุศย์ หรือโอเว่น อายุ 25 ปี ชาว จ.หนองคาย ทำงานเป็นพนักงานศูนย์เปล โรงพยาบาลอุดรธานี เจ้าหน้าที่จึงติดต่อญาติให้มาดูศพ ต่อมานางสาวพรพรรณ หรือน้ำ (สงวนสกุล) อายุ 28 ปี แฟนผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาดูศพและยืนยันว่าเป็นแฟนจริง พร้อมแสดงอาการเสียใจร้องไห้น้ำตาไหล ตัดพ้อว่าไม่น่าคิดสั้น
นางสาวภศรินทน์ วจีประศรี หรือจุ่ม แม่บ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังทำงานกวาดฝุ่นบันไดระหว่างชั้น 4 และชั้น 5 จากนั้นผู้เสียชีวิตเดินผ่านตน ก็สอบถามว่ามาหาใครแต่ผู้เสียชีวิตไม่ตอบ และเดินไปยังชั้น 4 ตนก็กวาดทำความสะอาดต่อไปจนมาถึงชั้น 1 และกำลังเดินไปห้องสำนักงาน จากนั้นได้ยินเสียงดังตุ๊บจึงหันกลับรีบวิ่งไปดู พบว่าเป็นผู้ชายคนที่เดินผ่านนอนจมกองเลือด จึงวิ่งกลับมาเอาโทรศัพท์โทร.แจ้งตำรวจและผู้จัดการแฟลต
ขณะที่นางสาวพรพรรณเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตคือแฟนของตน ที่นายฐนกรตัดสินใจคิดสั้นแบบนี้ก็ไม่รู้เป็นด้วยสาเหตุใด ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเหตุทะเลาะอะไรกันเลย ส่วนตัวคิดว่าอาจจะเครียดเรื่องงานเรื่องเงิน ตอนแปดโมงเช้าวันนี้ก็ยังคุยกันปกติ แต่เขาไม่ได้บ่นอะไรให้ฟัง ก่อนหน้าก็ไม่มีลางบอกเหตุอะไรว่าเขาจะคิดสั้นแบบนี้ ทั้งนี้ ตนกับแฟนวางแผนไว้กำลังจะแต่งงานกันในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งตอนนี้ตนก็กำลังท้องอ่อนๆ ได้ 2 เดือน
ในเวลาต่อมาแม่กับพ่อผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาดูศพลูกชาย เมื่อเปิดผ้าขาวห่อศพออกแม่ถึงกับร้องไห้ด้วยความเสียใจ โดยแม่ได้พูดกับศพลูกชายว่ามีอะไรทำไมไม่บอกแม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปไว้ที่โรงพยาบาลอุดรธานีเพื่อให้ญาติติดต่อรับศพตามขั้นตอน โดยญาติจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปตั้งบำเพ็ญกุศลยังบ้านเกิดของแม่ที่จังหวัดหนองคายต่อไป