พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านกรุงเก่าบ่นน้ำท่วมซ้ำรอบ 3 ขึ้นๆ ลงๆ จะท่วมก็ท่วมไปเลย ล้างหลายรอบเหนื่อย ร้องไปยังการจัดการน้ำของภาครัฐไม่สามารถแก้ปัญหาอะไร น้ำท่วมเหมือนเดิม รวมแล้วปีนี้น้ำท่วมนานกว่า 3 เดือนแล้ว
สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีการระบายน้ำอยู่ที่ 1,600 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้ตอนนี้ถูกน้ำท่วม 8 อำเภอ 107 ตำบล 658 หมู่บ้าน 25,969 ครัวเรือน อำเภอเสนา รวม 16 ตำบล 126 หมู่บ้าน 4 ชุมชน 7,332 ครัวเรือน อำเภอบางบาล รวม 16 ตำบล 86 หมู่บ้าน 2,330 ครัวเรือน
อำเภอผักไห่ รวม 12 ตำบล 79 หมู่บ้าน 2,476 ครัวเรือน อำเภอบางไทร รวม 23 ตำบล 126 หมู่บ้าน 5,220 ครัวเรือน อำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 20 ตำบล 94 หมู่บ้าน 22 ชุมชน 2,832 ครัวเรือน อำเภอบางปะอิน รวม 12 ตำบล 78 หมู่บ้าน 3,295 ครัวเรือน อำเภอบางซ้าย รวม 6 ตำบล 53 หมู่บ้าน 2,080 ครัวเรือน อำเภอมหาราช 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน 90 ครัวเรือน
วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่ หมู่ที่ 9 ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมก่อนแรก และจะลงทีหลัง เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับคลองบางหลวง ได้รับมวลน้ำมากจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งส่งผลให้ตอนนี้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมสองฝั่งเป็นครั้งที่ 3 ทำให้ตอนนี้ทั้งบ้านเรือน สถานที่ราชการ วัด โรงเรียน ถนนทางเข้าออกชุมชนถูกน้ำท่วมอีกครั้ง
มาวันนี้ยังพบว่า บ้านเรือนพี่น้องประชาชน ประมาณ 100 หลังคาเรือน ชั้นล่างถูกน้ำท่วมทั้งพื้นที่ ชาวบ้านต้องนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดบนถนน ชาวบ้านในพื้นที่ยังใช้เรือเข้าออก ซึ่งความเป็นอยู่ใช้ชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก
นางประนอม อายุ 60 ปี กล่าวว่า น้ำท่วมรอบ 3 ครั้งนี้ ตอนแรกลงไปแล้วรอบหนึ่งเกือบจะแห้ง พอมา 4-5 วันก็สูงขึ้นมาอีก มาคราวนี้รอบที่ 3 ขึ้นเยอะกว่าเดิม
“เจอมารอบ 3 แล้วเราต้องอยู่ให้ได้ เราอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เกิด ปีนี้ 3 รอบแล้ว เมื่อปี 54 หนักสุด เหนื่อยกับการล้างรอบ 3 เบื่อ เกิดมาก็เจอกับน้ำแต่สมัยก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้ ท่วมน้อยท่วมไม่เยอะไม่ถึงกับท่วมบ้าน สมัยนี้กั้นหมดเลยมาตกอยู่แถวนี้หมด แถวบางบาลน้ำท่วมบ้านหมด ต้องรับกรรมมาทุกวันนี้ การจัดการน้ำของภาครัฐบอกไปหลายเที่ยวแล้วก็ได้เท่านี้เหมือนเดิมทุกปี
สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีการระบายน้ำอยู่ที่ 1,600 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้ตอนนี้ถูกน้ำท่วม 8 อำเภอ 107 ตำบล 658 หมู่บ้าน 25,969 ครัวเรือน อำเภอเสนา รวม 16 ตำบล 126 หมู่บ้าน 4 ชุมชน 7,332 ครัวเรือน อำเภอบางบาล รวม 16 ตำบล 86 หมู่บ้าน 2,330 ครัวเรือน
อำเภอผักไห่ รวม 12 ตำบล 79 หมู่บ้าน 2,476 ครัวเรือน อำเภอบางไทร รวม 23 ตำบล 126 หมู่บ้าน 5,220 ครัวเรือน อำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 20 ตำบล 94 หมู่บ้าน 22 ชุมชน 2,832 ครัวเรือน อำเภอบางปะอิน รวม 12 ตำบล 78 หมู่บ้าน 3,295 ครัวเรือน อำเภอบางซ้าย รวม 6 ตำบล 53 หมู่บ้าน 2,080 ครัวเรือน อำเภอมหาราช 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน 90 ครัวเรือน
วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่ หมู่ที่ 9 ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมก่อนแรก และจะลงทีหลัง เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับคลองบางหลวง ได้รับมวลน้ำมากจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งส่งผลให้ตอนนี้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมสองฝั่งเป็นครั้งที่ 3 ทำให้ตอนนี้ทั้งบ้านเรือน สถานที่ราชการ วัด โรงเรียน ถนนทางเข้าออกชุมชนถูกน้ำท่วมอีกครั้ง
มาวันนี้ยังพบว่า บ้านเรือนพี่น้องประชาชน ประมาณ 100 หลังคาเรือน ชั้นล่างถูกน้ำท่วมทั้งพื้นที่ ชาวบ้านต้องนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดบนถนน ชาวบ้านในพื้นที่ยังใช้เรือเข้าออก ซึ่งความเป็นอยู่ใช้ชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก
นางประนอม อายุ 60 ปี กล่าวว่า น้ำท่วมรอบ 3 ครั้งนี้ ตอนแรกลงไปแล้วรอบหนึ่งเกือบจะแห้ง พอมา 4-5 วันก็สูงขึ้นมาอีก มาคราวนี้รอบที่ 3 ขึ้นเยอะกว่าเดิม
“เจอมารอบ 3 แล้วเราต้องอยู่ให้ได้ เราอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เกิด ปีนี้ 3 รอบแล้ว เมื่อปี 54 หนักสุด เหนื่อยกับการล้างรอบ 3 เบื่อ เกิดมาก็เจอกับน้ำแต่สมัยก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้ ท่วมน้อยท่วมไม่เยอะไม่ถึงกับท่วมบ้าน สมัยนี้กั้นหมดเลยมาตกอยู่แถวนี้หมด แถวบางบาลน้ำท่วมบ้านหมด ต้องรับกรรมมาทุกวันนี้ การจัดการน้ำของภาครัฐบอกไปหลายเที่ยวแล้วก็ได้เท่านี้เหมือนเดิมทุกปี