สระแก้ว - พ่อแม่คาใจลูกชายวัย 16 ปีถูกรถชนดับหน้าวิทยาลัยใน จ.สระแก้ว หลังครูขี่ จยย.ไล่จับเนื่องจากโดดเรียนนั่งมุมตึกจนต้องวิ่งหนีออกนอกกำแพงพร้อมเพื่อน ทำเกิดเหตุเศร้า เผยวันนี้ยังไร้ซึ่งคำชี้แจงหรือขอโทษจากครู จนต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดี
จากกรณีที่ "น้องนะโม" อายุ 16 ปี นักศึกษาแผนกช่างไฟฟ้า ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเสียชีวิต ขณะวิ่งหนีการไล่จับของครูออกมาที่ด้านหน้าวิทยาลัย เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.50 น.วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้ผู้ปกครองของนักศึกษาติดใจสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของลูกชายนั้น
วันนี้ (24 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปวัดดงงู อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของ "น้องนะโม" และได้พบกับนายพงษ์เทพ อายุ 42 ปีซึ่งเป็นบิดา ซึ่งได้บอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าในช่วงบ่ายวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากครูที่ปรึกษา ว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุถูกรถชน และให้รีบเดินทางไปโรงพยาบาลวัฒนานคร แต่เมื่อไปถึงพบว่าลูกชายไม่รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังคงมีชีพจรอยู่
เมื่อสอบถามเพื่อนลูกชายทราบว่าลูกชายและเพื่อนประมาณ 5-6 คนได้ถูกครูขี่รถจักรยานยนต์ไล่จับจนต้องพากันกระโดดหนีออกจากกำแพงโรงเรียน และครูคนดังกล่าวยังได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ไปตามถนน กระทั่งลูกชายได้วิ่งหนีข้ามถนนจนถูกรถชนเสียชีวิต และหลังเกิดเหตุครูคนดังกล่าวได้ยืนดูลูกชายก่อนจะขี่รถกลับเข้าโรงเรียน โดยไม่ให้การช่วยเหลือและยังปล่อยให้นอนนิ่งอยู่กลางถนน
"ส่วนคนที่ขับรถชนน้องคือ คุณหมอและได้ลงมาจากรถมาช่วยปั๊มหัวใจ โดยที่ไม่มีใครคิดจะโทรศัพท์แจ้งกู้ภัย หรือโรงพยาบาล ทั้งที่โรงพยาบาลกับโรงเรียนห่างกันไม่ถึง 100 เมตร แต่กลับปล่อยให้ลูกชายนอนอยู่ในที่เกิดเหตุนานเกือบ 30 นาที ซึ่งหากมีการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเชื่อว่าลูกชาย อาจไม่ถึงแก่ชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทั้งตัวเอง และญาติรู้สึกติดใจกับการกระทำของครูคนดังกล่าว”
นายพงษ์เทพ ยังบอกอีกว่าหลังจากนี้จะได้แจ้งความเอาผิดทางกฎหมายกับครูอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันที่ตั้งสวดอภิธรรม ครูคนดังกล่าวไม่เคยติดต่อเพื่อแสดงความรับผิดชอบ หรือกล่าวคำขอโทษแต่อย่างใด
ด้าน นายพัสกร หรือเฟิร์ส และนายกฤษฎา หรือเฟรม เพื่อนของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตลืมนำเครื่องมือที่จะต้องใช้ในการเรียนวิชาไฟฟ้ามากจากบ้านจึงไม่ได้เข้าเรียนตามปกติ บรรดาเพื่อนและน้องนะโม ผู้เสียชีวิตรวมประมาณ 5-6 คนจึงพากันไปนั่งเล่นบริเวณมุมตึก กระทั่งครูได้ขี่รถจักรยานยนต์มาไล่ทำให้ทั้งหมดพากันตกใจวิ่งหนีกระโดดข้ามกำแพงออกไปนอกรั้วโรงเรียน แต่ครูยังขี่รถไล่ตามไม่หยุด จึงทำให้ "น้องนะโม" วิ่งหนีข้ามถนนจนถูกรถชนต่อหน้าเพื่อนๆ
และหลังเกิดเหตุครูยังขี่รถไล่ตามไม่หยุดโดยไม่ยอมให้พวกตนได้เข้าไปดูเพื่อนที่นอนบาดเจ็บอยู่กลางถนน จนสุดท้ายต้องพาวิ่งหนีเข้าไปในซอยเพื่อหลบในป่าข้างทาง ซึ่งตนรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนได้
ขณะที่ น.ส.ยุพิน แม่ของน้องนะโม บอกว่าตนและสามีรวมถึงญาติทุกคนต่างรู้สึกคาใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากฟังคำอธิบายจากครู โดยยืนยันว่าจะทวงความยุติธรรมให้ลูกชาย ส่วนร่างกายของลูกชายหลังได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้แล้ว ตนและครอบครัวจึงตัดสินใจที่จะมอบอวัยวะให้ผู้อื่นเพื่อช่วยต่อลมหายใจ
“แต่เนื่องจากว่าอวัยวะในร่างกายของน้องเสียหายทั้งหมด จึงเหลือเพียงดวงตา 2 ข้างที่สามารถส่งต่อให้ผู้ที่รอรับบริจาคได้ถึง 2 คน จึงขอให้ผลบุญนี้ส่งต่อไปยังน้องนะโม ต่อไป” แม่ของผู้เสียชีวิตกล่าว