ศรีสะเกษ - แฉลัทธิสีรุ้งประหลาด ชวนสมาชิกลงทุนแนวลามกอ้างค่าตอบแทนสูง บางรายขายที่นาสวนยางไปลงทุนหมดเป็นล้านยังไม่ได้เงินคืนสักบาท ขณะอีกรายลูกชายโร่แจ้งความให้ตำรวจช่วย หวั่นแม่ถูกหลอกนำทรัพย์สมบัติที่ดินไปขายหอบเงินลงทุนจนหมดเกลี้ยงเหตุหลงเชื่อศรัทธาในลัทธิ เผยเจ้าลัทธิเป็นอดีตพระฉาวชื่อดัง เคยถูกจับดำเนินคดีแล้วกลับมาทำอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ว่ามีกลุ่มที่ตั้งตนเป็นลัทธิประหลาดอยู่ในพื้นที่อำเภอปรางค์กู่ ได้พยายามใช้วิธีการล่อลวงให้คนหลงเชื่อ นำเงินไปลงทุน และหลงเชื่อด้วยความเต็มใจ นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรม คำพูด และบทสวดที่ดูประหลาด เข้าขั้นลามก ทำให้ครอบครัวของผู้ที่เป็นสมาชิกในลัทธิประหลาดนี้ทนไม่ไหว ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรปรางค์กู่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในเรื่องนี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวกับลูกชายของหนึ่งในสมาชิกลัทธิประหลาด พร้อมทั้งให้ดูข้อความแชตที่มีลักษณะคำพูดเชิงลามกในการขาย และคลิปเสียงเชิงลามก
นายพุฒิเมธได้ให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่แม่เข้าไปปฏิบัติธรรมที่สถานที่ดังกล่าวพฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนเชื่อในศรัทธาของตัวเอง และเจ้าของลัทธิเป็นอย่างมาก ซึ่งจริงๆ เจ้าสำนัก หรือเจ้าของลัทธิในอดีตคือ พระ ก หัวหน้าที่พักสงฆ์ ซึ่งโด่งดังเมื่อหลายปีก่อนจากพฤติกรรมแปลกๆ หลังจากนั้นจึงถูกเจ้าหน้าที่จับสึก ดำเนินการปิดที่พักสงฆ์ และดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าปัจจุบันนี้ได้กลับมาตั้งลัทธิประหลาดอีกครั้ง โดยใช้พื้นที่ส่วนบุคคลของเจ้าตัว ปิดกั้นอาณาเขตชัดเจน คนนอกไม่สามารถเข้าไปได้นอกจากสมาชิก ซึ่งในตอนนี้มีกลุ่มลูกศิษย์และสมาชิกประมาณ 30-40 คน และหนึ่งในนั้นมีแม่ของตนรวมอยู่ด้วย
ลูกชายของสมาชิกกล่าวต่อว่า ก่อนที่ตนจะเข้าไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปรางค์กู่นั้น สาเหตุมาจากสังเกตพฤติกรรมการใช้เงินของแม่ที่เปลี่ยนไป และมีการชวนญาติพี่น้องเข้าไปร่วมลงทุน ทั้งที่อยู่ในสถานที่ที่มีการปฏิบัติธรรม และไม่รู้เหตุใดถึงต้องมีการลงทุน เมื่อตนพยายามสอบถามกับแม่ทำให้ทราบว่า เป็นการลงทุนที่เรียกว่า คริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) บอกว่าเป็นเงินไซเบอร์ (สกุลเงินดิจิทัล) อีกทั้งยังบอกเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนเงิน 1,000 บาท ได้ทองถึง 30,000 บาท ซึ่งตนพยายามห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล โดยแม่ของตนอ้างว่าเจ้าของสำนักบอกให้มาหาคนลงทุน โดยอ้างเรื่องของผลตอบแทน ซึ่งแม่ของตนหลงเชื่อ ถึงขนาดให้ตนถ่ายโอนโฉนดที่ดินให้ แต่ตนรู้สึกผิดสังเกตจึงไม่ทำตามคำขอ ซึ่งที่ผ่านมาแม่ของตนได้สูญเสียเงินให้กับลัทธิแห่งนี้ไปเป็นจำนวนเงินหลักแสน แต่ปัจจุบัน ยังไม่มีการได้เงินกลับคืนเลย แต่กลับมีท่าทีที่จะพยายามมาหาเงินเพื่อจะลงทุนเพิ่ม ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปรางค์กู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งลัทธิแห่งนั้นอยู่เพื่อให้การช่วยเหลือแม่ของตน เพราะไม่รู้จะพึ่งพาใครแล้ว
ขณะที่ลูกชายของหนึ่งในสมาชิกลิทธิประหลาดนี้เช่นกัน ได้ให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวว่า แม่กลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 1 เดือน หลังจากอดีตที่พักสงฆ์ได้ถูกสั่งปิด ก่อนที่จะแอบนำโฉนดที่ดินซึ่งเป็นที่นา จำนวน 5 ไร่ ไปขายเป็นจำนวนเงิน 1,300,000 บาท แต่ปรากฏว่ากลับนำเงินไปลงทุนให้กับลัทธินี้หมด ขณะที่ก่อนหน้านี้ ในปี 2564 ได้ขายสวนยางพารา จำนวน 9 ไร่ ในราคา 600,000 บาท นำเงินแบ่งให้พ่อของตน เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 400,000 บาท แม่ของตนอ้างว่าจะนำไปใช้ในบั้นปลายชีวิต ก่อนกลับเข้าที่ลัทธิเหมือนเดิม
นอกจากนี้ แม่ของตนยังได้ชักชวนป้าอีก 2 คนไปร่วมลงทุน รวมกันเป็นเงินอีก 500,000 บาท ซึ่งจากเรื่องราวและพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเป็นห่วงและกังวลใจกับแม่ของตนเป็นอย่างมากว่าจะถูกหลอกลวงหรือไม่ ซึ่งตนอยากให้ใครก็ได้ช่วยกันจัดการในเรื่องนี้ก่อนที่จะเสียทุกอย่างไป เพราะทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของแม่หมด และหวั่นว่าจะไม่เหลือทรัพย์สินอะไรเลย แม้กระทั่งที่นอน
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านกอกหวาน ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของลัทธิประหลาดแห่งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนบุคคลกลางทุ่งนา มีการทำอาณาพื้นที่ในการสร้างสถานที่ชัดเจน และมีการทาหลังคาสีรุ้ง และการแต่งกายเป็นชุดสีรุ้ง ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นเรียกว่า ลัทธิสีรุ้ง ซึ่งคนนอกไม่สามารถเข้าไปในบริเวณพื้นที่ได้ คนนอกที่ต้องการพบกับผู้ที่อยู่ภายในต้องทำการติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ และคนที่อยู่ข้างในลัทธิต้องขออนุญาตเจ้าของลัทธิเพื่อออกมาพบกับผู้มาติดต่อขอพบ หรือแม้กระทั่งการออกไปข้างนอกก็ต้องขออนุญาตเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ญาติของทางสมาชิกลัทธิประหลาดยังได้เปิดเผยข้อมูลใม่ว่าจะเป็นแชตนำเสนอซื้อขาย ลงทุนออนไลน์ ที่มีข้อความอนาจาร และส่อทางเพศ และในคลิปเสียงจะมีการพูดในเชิงอนาจารและล่อแหลม พร้อมทั้งการทำธุรกิจด้วย