ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- นักธุรกิจสาวโคราชประสบปัญหากิจการลานมันสำปะหลังขาดทุนไม่ท้อ หันมาปลูกกล้วยหอมทองส่งขายรายได้งามไร่ละแสน ขยายพื้นที่ปลูกต่อเนื่องจาก 5 ไร่เป็น 20 ไร่ พร้อมรวบรวมกลุ่มเกษตรกรปลูกกล้วยหองทองสร้างวิสาหกิจชุมชน
วันนี้ ( 23 ต.ค.67) ที่ สวนกชพรกล้วยหอม บ้านประชาไทย ม.10 ต.สุขไพบูลย์ อ.เสิงสาง จ.นครรราชสีมา นางสาวกรรณิการ์ แว่นรัมย์ อายุ 28 ปี หรือ “น้องแคท” เจ้าของสวนกชพรกล้วยหอม ซึ่งน้องแคท เรียนจบบริหารธุรกิจมาเพื่อสานต่อธุรกิจลานรับซื้อมันสำปะหลังของทางครอบครัว แต่ช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ที่ผ่านมาครอบครัวเกิดปัญหาทางการเงิน จึงเลิกกิจการลานรับซื้อมันสำปะหลังกลับมาทำอาชีพเกษตรคือการปลูกมันสำปะหลังที่ทางบ้านเคยทำมาก่อนนี้
แต่ด้วยความที่เคยทำธุรกิจมาก่อนจึงมองว่าการทำมันสำปะหลังนั้นกว่าจะได้ผลผลิตต้องใช้เวลานานเก็บเกี่ยวได้แค่ปีละครั้ง จึงมองหาพืชเกษตรตัวอื่นที่สามารถเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปี และสร้างรายได้สูง ใช้เวลาการปลูกไม่นาน จึงได้หันมาปลูกกล้วยหอมทองเพราะอายุในการปลูกเพียงแค่ 8 เดือน และสามารถปลูกสับเปลี่ยนเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปี และที่สำคัญคือราคาในการสั่งซื้อค่อนข้างสูง
ในช่วงแรกจึงได้ทดลองปลูกในพื้นที่ของตัวเองจำนวน 5 ไร่ ปลูกกล้วย 400 ต้นต่อไร่ ลงทุนประมาณ 35,000 บาทต่อไร่ หลังจากเก็บผลผลิตรอบแรกปรากฏว่าสามารถขายผลผลิตไร่ละ 100,000 บาท เมื่อหักต้นทุนออกแล้ว เหลือกำไรอยู่ประมาณไร่ละ 70,000 บาท จึงทำให้ลงทุนขยายปลูกเพิ่มตอีก 10 ไร่ ก่อนขยายเป็น 20 ไร่ในปัจจุบัน ซึ่งในตอนนี้ตลาดที่ส่งออกไปขาย มีหลักๆคือส่งห้างฯ และขายปลีก รวมถึงขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้าที่สนใจนำกล้วยหอมจากสวนไปขายยังตลาดต่างๆ
ตอนนี้ผลผลิตที่มียังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่สั่งซื้อเข้ามาตลอด ยิ่งในช่วงเทศกาลต่างๆ ความต้องการกล้วยหอมทองยิ่งมีมากและราคาสูง ปัจจุบันจึงรวบรวมกลุ่มสมาชิกปลูกกล้วยหอมทองขึ้นโดยจัดทำในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านการผลิตและการตลาด ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรอำเภอเสิงสางให้คำแนะนำและคอยดูแลเรื่องของการตลาดและในช่วงที่ผลผลิตมีราคาตกต่ำ
