xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) นาทีระทึก! เก๋งปริศนาปาดหน้าเฉี่ยวกระบะพุ่งตกคลองหงายท้องจมน้ำ 3 ชีวิตติดในรถทุบกระจกหนีตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เปิดคลิปนาทีระทึก เก๋งปริศนาขับปาดหน้าเฉี่ยวกระบะเสียหลักพุ่งตกคลองพลิกคว่ำหงายท้องจมน้ำ เผย 3 ชีวิตติดในรถต้องทุบกระจกหนีตาย หนึ่งในนั้นเป็นเด็ก 10 ขวบ เปิดใจคนขับกระบะยันเก๋งจงใจเบียดปาดหน้าแล้วแตะเบรกให้ชน แต่ไม่รู้สาเหตุ ระบุไม่เคยมีศัตรูคู่อาฆาต เชื่อเป็นแก๊งมิจฉาชีพหวังตบทรัพย์

นี่คือภาพวิดีโอจากกล้องหน้ารถที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อว่า “เพชร เพชรเจมส์เซอร์วิส (ช่างเพชร)” ได้นำมาโพสต์ลงโซเชียล เป็นคลิปเหตุการณ์รถยนต์เก๋งสีขาวคันหนึ่งขับแซงปาดหน้ารถยนต์กระบะ บริเวณเส้นทางสายโคกกรวด-ดอนแขวน ปากทางเข้าบ้านหนองสองห้อง ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าเข้าตัว อ.ครบุรี ในลักษณะคล้ายจงใจขับมาเบียดตัดหน้าเฉี่ยวรถยนต์กระบะ จนเป็นเหตุให้รถกระบะเสียหลักพุ่งตกลงข้างทางพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า และห้องโดยสารจมลงไปในคลองน้ำที่มีน้ำขัง ทำให้เจ้าของคลิปต้องรีบถอยรถมาดูเพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากโพสต์คลิปออกไป ชาวโซเชียลได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กัน และอยากรู้ว่า คนในรถที่ประสบอุบัติเหตุได้รับอันตรายหรือไม่





ล่าสุดวันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้โพสต์ ทราบชื่อคือ นายณัฐพัฒน์ กองแก้ม อายุ 32 ปี หรือช่างเพชร เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถ เพชรแอนด์เจมส์เซอร์วิส ต.อรพิมพ์ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.40 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ตนขับรถมาตามเส้นทางกลับจากนำของไปส่งลูกค้า กำลังมุ่งหน้าเข้าตัว อ.ครบุรี โดยช่วงก่อนเกิดเหตุมีรถเก๋งขับตามหลังกระบะคันประสบเหตุ ขับอยู่ด้านหน้ารถของตน เห็นรถทั้งสองคันขับตามกันมาตามปกติ ประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วจู่ๆ รถเก๋งสีขาวก็ขับแซงรถกระบะขึ้นไปช่องทางขวา และแค่ประมาณ 3 วินาทีเมื่อรถเก๋งขับแซงพ้นรถกระบะรถเก๋งก็ขับเบียดปาดหน้าเข้ามาในช่องทางด้านซ้ายอย่างกะทันหัน ซึ่งเห็นไม่ชัดว่ามีการเฉี่ยวชนกันหรือไม่ แต่ทำให้รถกระบะเสียหลักพุ่งลงข้างทางด้านซ้ายทันที ซึ่งตนเห็นเหตุการณ์ได้ขับรถผ่านไปเล็กน้อยจึงรีบถอยรถลงมาดูเพื่อให้การช่วยเหลือ ในขณะที่รถเก๋งคันต้นเหตุขับหลบหนีไปหน้าตาเฉย


ส่วนรถกระบะที่ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ยท 4560 นครราชสีมา พบว่าห้องโดยสารจมไปครึ่งหนึ่ง มีคนขับและผู้โดยสารอีก 2 คนติดอยู่ในรถ ซึ่งคนขับได้ใช้ท่อเหล็กทุบกระจกหน้ารถจนแตกแล้วพยายามออกมาจากตัวรถ ตนและเพื่อนที่นั่งมาด้วยกันจึงรีบไปช่วยดึงผู้ประสบเหตุออกมา และช่วยผู้โดยสารออกมาด้วยทั้งหมดรวม 3 ชีวิต เป็นชายคนขับ 1 คน และผู้หญิงอีก 2 คน เป็นผู้ใหญ่กับเด็กหญิงวัย 10 ขวบ โชคดีที่ทั้งหมดไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้

จึงตั้งข้อสังเกตไว้หลายอย่าง ว่ารถเก๋งอาจจะตั้งใจปาดหน้าเบียดรถกระบะให้ตกลงถนน หรืออาจแซงไม่พ้น แต่ช่วงเวลานั้นไม่มีรถขับสวนทางมา ทำไมจึงต้องหักเข้าเลนซ้ายกะทันหันขนาดนั้น หรืออาจเป็นแก๊งมิจฉาชีพหวังตบทรัพย์ก็เป็นได้


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปพบ นายวิรัตน์ กลมค้างพลู อายุ 50 ปี คนขับกระบะคันประสบเหตุที่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 8 บ้านบุมะค่า ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งมีนางสาวกรภัทร กังขอนนอก อายุ 37 ปี น้องสาว และลูกสาววัย 10 ขวบ นั่งโดยสารและประสบเหตุด้วย

นายวิรัตน์เล่าว่า ตนและน้องสาวกับหลานสาวเดินทางไปเที่ยวที่ จ.จันทบุรี ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2567 และกำลังจะกลับถึงบ้านในช่วงเช้าวันที่ 20 ตุลาคม 2567 อีกประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เป็นช่วงฝนหยุดตกใหม่ๆ ตนจึงขับช้าประมาณ 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็มีรถเก๋งสีขาวขับแซงขึ้นมา แล้วเบียดปาดหน้ารถของตน และดูเหมือนว่ารถเก๋งจะเหยียบเบรก ก่อนจะมีเสียงดังจากการชน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมากจนยังไม่ทันเหยียบเบรกรถก็เสียหลักตกลงข้างทาง ยังไม่รู้เหตุผลว่ารถเก๋งต้องการอะไร ถนนก็โล่ง แซงแล้วมาตัดหน้าและดูเหมือนจงใจแตะเบรกด้วย เมื่อชนก็ไม่หยุด ขับต่อไปหน้าตาเฉย


ส่วนรถของตนก็พลิกคว่ำพังเสียหาย ตอนที่รถจมน้ำไปครึ่งห้องโดยสาร ต้องรวบรวมสติ คว้าเอาแท่งเหล็กแป๊ปติดรถมาทุบกระจกบานหน้าจนแตก แล้วพาน้องสาวกับหลานออกมา โชคดีห้องโดยสารยุบเพียงเล็กน้อย คอนโซลหน้ารถทับขา แต่พอเอาตัวรอดออกมาได้ อาจจะเป็นเพราะขับมาช้า รถจึงเสียหายไม่มาก แต่หากขับมาเร็ว หรือน้ำท่วมสูงกว่านี้ ทุกคนอาจไม่รอด

ตอนนี้ทุกคนยังตกใจไม่หายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่ารถคู่กรณีประสงค์อะไรกันแน่ เพราะไม่เคยมีศัตรูคู่อาฆาตที่ไหน จึงคิดว่าคนขับรถเก๋งจงใจปาดหน้าแน่นอน หรืออาจจะเป็นแก๊งตบทรัพย์ หลังจากนี้จะเข้าไปแจ้งความที่ สภ.ครบุรีไว้เป็นหลักฐาน เพราะอย่างน้อยหากเป็นแก๊งตบทรัพย์จริง เจ้าหน้าที่ฯ จะได้ป้องปราบหรือหามาตรการมาป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้น และจะจงใจหรือไม่จงใจ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ฯ ติดตามตัวคนขับเก๋งคันดังกล่าวมารับผิดชอบให้ได้



ผู้ประสบเหตุ

ผู้โพสต์




กำลังโหลดความคิดเห็น