กำแพงเพชร - สาวกำแพงเพชรเปิดอกตกเป็นเหยื่อดิไอคอนฯ สูญเงินตัวเอง-ครอบครัวนับ 10 ล้าน เครียดจนเคยคิดสั้น ต้องพึ่งนักจิตวิทยาถึงผ่านมาได้ หอบข้อมูลร้อง ส.ส.กำแพงเพชรช่วยเหลือ-ประสานตำรวจดำเนินคดีสารพัดบอส-แม่ข่าย
มหากาพย์ดิไอคอน กรุ๊ป ที่มีการชักชวนให้ร่วมลงทุนธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ซึ่งมีผู้เสียหายร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก รวมถึงกำแพงเพชรด้วย
ล่าสุด น.ส.ปัทมาภรณ์ อายุ 38 ปี แม่ค้าสาวชาว อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ตัวแทนครอบครัวผู้เสียหายจากดิไอคอน กรุ๊ป เข้าพบ นายไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชร เขต 1 เพื่อขอให้ช่วยเหลือ พร้อมขอให้ประสานงานเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร
หลังจากการพูดคุย ผู้เสียหายได้นำเอกสาร ข้อความหลักฐานต่างๆ และรูปถ่ายกับบรรดาบอสๆ พร้อมกับเล่ารายละเอียดความเสียหายทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจ ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน
ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เงินที่นำไปร่วมลงทุนนั้นเป็นเงินที่ได้มาจากการค้าขาย สะสมเก็บไว้เป็นกองทุนเลี้ยงลูกและครอบครัว อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินของเครือญาติ ซึ่งเริ่มแรกตนได้เข้าไปเรียนคอร์สขายออนไลน์และซื้อของในระบบ เริ่มจาก 2,500 บาท จากนั้นซื้อของเพิ่มอีกเป็น 25,000 บาท ต่อมาญาติได้เดินทางมาที่บ้าน ได้พูดคุยกับเกี่ยวกับธุรกิจดิไอคอน แล้วชวนกันไปเปิดเป็นดีลเลอร์ จึงเป็นจุดที่ได้เข้าไปประชุมพร้อมกับเปิดบิล และได้เจอกับบรรดาบอสๆ ทั้งหลาย
แต่หลังจากเปิดบิลไปแล้วไม่เป็นเหมือนที่คิด ไม่เน้นการขาย แต่เน้นการชักชวนคนให้มาร่วมทุนเพิ่ม มีการนำผลงานโชว์ความสำเร็จจากการทำกำไรได้มากมายเพียงในระยะเวลาสั้น อย่างเช่นหนึ่งเดือนได้หนึ่งล้าน มาเป็นแรงจูงใจทำให้หลงร่วมลงทุนกับธุรกิจดิไอคอน
หลังจากลงทุนไปแล้วธุรกิจไม่สวยหรูเหมือนผลงานที่นำมาโชว์ ทำให้ตนรวมกับญาติเสียหายไปนับ 10 ล้านบาท ยอมรับว่าเครียดจนเคยจะคิดสั้นมาแล้ว ต้องเข้าไปขอคำปรึกษากับนักจิตวิทยาจนทำให้คลายความเครียดลงได้มาก
ด้านนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 เปิดเผยว่า ผู้เสียหายในจังหวัดกำแพงเพชรก็มีหลายรายเช่นกัน ในส่วนของรายนี้พบว่ามีความเสียหายรวมกับเครือญาติสูงถึง 10 ล้านบาท ซึ่งคิดว่าเป็นเคสที่เสียหายเยอะที่สุด ถึงกับเคยคิดสั้นมาแล้ว ซึ่งผู้เสียหายประกอบอาชีพค้าขายในพื้นที่อำเภอคลองขลุง แต่ห้วงที่ประสบปัญหาโควิดได้รับความบอบช้ำ การค้าขายไม่ดี จึงคิดที่จะเอาเงินเก็บสะสมไว้มาลงทุน โดยมีเครือญาติร่วมลงทุนด้วย
“มองว่าที่ผ่านมาประชาชนผ่านความยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 มาแล้ว ยังมาถูกซ้ำเติมถูกหลอกให้ลงทุน หลอกให้มีความหวังที่จะได้เงินจากธุรกิจทำให้ชีวิตดีขึ้น สำหรับเรื่องนี้ผมพร้อมที่จะสู้เต็มที่อยู่เคียงข้างช่วยเหลือผู้เสียหาย”
