xs
xsm
sm
md
lg

“พระมหาอุดร” ยอมรับบอสพอลโอนบัญชีส่วนตัวครั้งละ 2-6 แสนเพื่อใช้จ่ายกิจของวัดสะดวก ยันรู้จักกันตั้งแต่บอสพอลยังไม่รวย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - พระมหาอุดร พระลูกวัดสว่างน้ำใส อ.โนนศิลา ชี้แจงเหตุบอสพอลไม่โอนเงินทำบุญเข้าบัญชีวัด 
แต่โอนเข้าบัญชีของตนครั้งละ 200
,000-600,000 บาทเพราะต้องการให้นำไปใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ของวัดได้สะดวกและควบคุมการใช้จ่ายได้ง่าย ส่วนบอสพอลรู้จักกันตั้งแต่ 10 ปีก่อนตอนที่เขายังไม่รวย ยืนยันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบอสพอลทำธุรกิจอะไร ยังไง เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์


จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” โพสต์ภาพสลิปการโอนเงินผ่านแอปฯ ของธนาคารที่มีชื่อผู้โอนระบุว่าเป็น วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล และเป็นเงินทำบุญ โดยโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของพระสงฆ์ ระบุชื่อว่า พระอุดร บุญชูหล้า พร้อมข้อความระบุว่า “บอสพอลโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัวของพระมหาอุดร บุญชูหล้า แบบฉ่ำมาก โดยส่วนใหญ่จะโอนทีละ 200,000-600,000 บาท บางเดือนโอนไป 2-3 รอบ (สลิปแค่ส่วนหนึ่ง) ในระยะเวลาไม่กี่ปี บอสพอลโอนเงินบริจาครวมๆ กว่า 12 ล้าน ผ่านพระรูปหนึ่ง โดยอ้างว่าทำบุญวัดสว่างน้ำใส ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น แต่ไม่รู้ทำไม ทั้งๆ ที่วัดก็มีบัญชีวัดอยู่แล้ว แต่มักโอนเข้าผ่านพระรูปนี้ตลอดเลย แว่วๆ มาว่าบอสพอลค่อนข้างสนิทมากซะด้วย มักจะทำแต่ที่นี่ประจำ ลองตรวจสอบดูอาจเจออะไรดีๆ..บอสปัน ก็เอากับเขาด้วยนะ..”

ล่าสุด พระมหาอุดร บุญชูหล้า อายุ 65 ปี วัดสว่างน้ำใส บ้านดอนหัน อ.โนนศิลา ชี้แจงว่า อาตมาได้รู้จักบอสพอลครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดใน กทม. บอสพอลได้มาทำบุญที่วัดเรื่อยๆ เป็นเหมือนญาติโยม ลูกศิษย์ทั่วไป เหตุผลที่บอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวไม่โอนเข้าบัญชีวัดเพราะว่า จะได้นำไปทำบุญต่อได้สะดวกกว่าการใช้บัญชีวัด และไม่ได้มีเฉพาะบอสพอลที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัว แต่ญาติโยมคนอื่นๆ ที่ร่วมทำบุญก็โอนเข้าบัญชีส่วนตัวเช่นกัน แต่ไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัว จะนำไปทำนุบำรุงที่วัดสว่างน้ำใส ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด


ทั้งน้ำ ค่าไฟ ค่าภัตตาหารสำหรับญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมโดยเฉพาะช่วงที่มีงานบุญต่างๆ และยังนำมาสร้างสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นในวัดด้วย ทั้งบ่อบาดาล 3 บ่อ บ่อละ 200,000 บาท ที่ต้องขุดเจาะลงไปลึก 150 เมตร เดินสายไฟ หอกระจายข่าว ถังประปา กุฏิที่อาตมาอยู่ แต่ทุกอย่างไม่ใช่เฉพาะบอสพอล แต่เป็นเงินทำบุญของญาติโยมคนอื่นๆ ด้วย

กรณีที่บอกว่าโอนเงินมาให้ปีละเป็นล้านนั้น ยืนยันว่าไม่ถึง มีเพียงช่วงหลังโควิดเมื่อปี 2564 ที่ทำบุญเข้ามาประมาณครั้งละ 200,000 บ้าง 400,000 บ้าง 600,000 บ้าง ก็จะนำไปใช้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม และทุกๆ อย่างในวัด แต่จะต้องดูแลเงินเองเพื่อการประหยัดงบ


ในส่วนประเด็นที่พยายามโยงมาว่าอาตมามีส่วนเกี่ยวข้องกับดิไอคอนนั้น ส่วนตัวไม่ทราบว่าบอสพอลทำอะไรเพราะไม่เคยบอก หรือทำธุรกิจอะไรก็ไม่ทราบ เห็นมีตอนที่รับกิจนิมนต์ไปที่บ้านบอสพอลก็จะเห็นตอนถวายเท่านั้น พระจะไม่ยุ่งกับธุรกิจหรือครอบครัวของชาวบ้าน เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ และไม่ถามญาติโยมว่าปัจจัยที่นำมาถวายนั้นบริสุทธิ์ไหม ถูกต้องไหม พระจะถามไม่ได้เด็ดขาดเพราะเป็นเรื่องมารยาทและคุณธรรม


พระมหาอุดรบอกอีกว่า ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อนที่รู้จักกัน ตอนนั้นบอสพอลยังถือว่าไม่ได้รวย ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือยังจนอยู่ เป็นลูกศิษย์ที่นานๆ จะมาเจอกัน ไม่ได้เจอกันบ่อย ครั้งล่าสุดก็เจอกันปีที่แล้ว ที่มาทอดกฐินที่วัดสว่างน้ำใสแห่งนี้ ซึ่งเป็นปีเดียวที่บอสพอลมาพร้อมกับคณะหลายคน แต่ปีนี้ทีแรกบอกว่าจะมา แต่เมื่อ 2-3 เดือนก่อนบอกว่าไม่สามารถมาได้แล้ว จึงบอกบุญกับชาวบ้านญาติโยมได้ร่วมกัน ครั้งที่บอสพอลมาทอดกฐินนั้นได้เงินทำบุญ 1.3 ล้านบาท


กรณีที่เป็นประเด็นโยงมาถึงอาตมามองว่าส่วนหนึ่งบอสพอลจะชอบให้คนอนุโมทนากับการที่ตัวเองได้ร่วมทำบุญ อาจจะมีการโพสต์สลิปเงินทำบุญที่โอนทำบุญในบัญชีส่วนตัวของอาตมา ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยบอกบอสพอลไปอยู่ว่า คนรักมีน้อย คนเกลียดมีมาก อย่าทำเลย กระทั่งเรื่องมาถึงอาตมาในวันนี้ ทางพระผู้ใหญ่ท่านเจ้าอาวาสก็ถามมาว่าจะทำยังไง ซึ่งอาตมาก็คิดเพียงว่าแล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำมา แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับบอสพอลในทางคดีแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น