พระนครศรีอยุธยา – สลด! เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ใน จ.อยุธยา เครียดผูกคอดับ หลังถูกชายแต่งตัวดีมาตีสนิท หลอกว่าจะมาทอดกฐิน หลังจากนั้น หว่านล้อมให้หลวงพ่อไปกู้ยืมเงินชาวบ้านให้ หลังหวยออกจะนำมาคืนหลังจากได้เงินไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
วันนี้ (20 ต.ค.) พ.ต.ต.ประชิด เสมาฤกษ์ สว.(สอบสวน) สภ.เสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุมีพระภิกษุสงฆ์ผูกคอมรณภาพภายในกุฏิ เหตุเกิดภายในวัดโบสถ์ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลเสนา และกำลังเจ้าหน้าที่อาสา สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา
ในที่เกิดเหตุพบเป็นศาลาปฏิบัติธรรม ภายในพบพระครูวรวัฒน์เขมากร (ชัยวัฒน์ ตรีธนะ) อายุ 68 ปี ใช้ผ้าประคดคาดเอวผูกคอตัวเองติดกับลูกกรงเหล็กภายในห้อง ลักษณะท่ายืน เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างพระภิกษุสงฆ์ลงมา จากการตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยบาดแผลถูกทำร้าย ลำคอมีรอยเขียวช้ำ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10-12 ชั่วโมง และยังพบจดหมายเขียนด้วยลายมือหลวงพ่อ ใจความว่า “เล็กกินสวัสดิ์ โจรในเครื่องนักบุญ จองกฐินแล้วโกงเงิน เจ้าอาวาส 650,000 บาท
โดยบอกให้อาตมากู้ยืมเงินคนอื่น แล้วบอกไปให้ในวันที่เก็บเงินขายหวย เพราะเอาไปลงทุนขายลอตเตอรี่ อาตมาหลงเชื่อจึงไปกู้ยืมเงินโยมมาให้ 9 ราย แต่เมื่อถึงเวลา นายเล็ก ผัดเรื่อยมา ตั้งแต่กันยายน และครั้งสุดท้าย ตั้งแต่ 1 ตุลาคม-15 ตุลาคม ไม่นำมาให้จนอาตมาสุดเหลือทน จนต้องทำสิ่งที่ไม่คาดคิด ลงชื่อเจ้าอาวาสและเบอร์โทร.”
จากการสอบถาม นายเสน่ห์ เยี่ยมอำพร อายุ 48 ปี คนเจอศพคนแรกซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนเห็นรองเท้าหลวงพ่อถอดวางอยู่ทางขึ้นศาลา จึงเอะใจว่าทำไมหลวงพ่อตื่นแต่เช้ามาที่ศาลาแห่งนี้ จึงเดินขึ้นไปดูพบหลวงพ่อใช้ประคดผูกคออยู่กับลูกกรงแล้ว จึงได้ไปตามพระและชาวบ้าน มาช่วยกันดู ส่วนศาลาที่หลวงพ่อผูกคอนั้นแต่ก่อนเป็นกุฏิเก่าของหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อดัดแปลงทำเป็นศาลาสอนปฏิบัติธรรม
นางสุชาดา ตรีธนะ อายุ 69 ปี พี่สะใภ้ เผยว่าหลวงพ่อบวชอยู่ที่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 38 จนถึงปัจจุบันร่วม 30 กว่าปี ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่ามีชายเข้ามาตีสนิทกับหลวงพ่อและบอกว่าจะขอเป็นเจ้าภาพกฐินในวันที่ 27 ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยก่อนหน้าประมาณเดือนที่แล้วชายคนดังกล่าวมาหาหลวงพ่อเกือบทุกวันจนมาสุดท้ายได้มาหลอกเงินหลวงพ่อไปเป็นจำนวนเงิน 650,000 บาท หลังจากนั้นติดต่อชายคนดังกล่าวไม่ได้อีกเลย จึงทำให้หลวงพ่อเกิดจากความเครียดจึงคิดสั้น
นายสมควร ไกรเพิ่ม อายุ 69 ปี ช่างปั้นบอกว่าตนเป็นช่างปั้นพระพุทธรูปให้วัดแห่งนี้และรู้จักหลวงพ่อมากว่า 20 ปีแล้ว หลวงพ่อเป็นคนดีชอบพัฒนาวัด และมีญาติโยมให้ความเคารพนับถือ โดยก่อนหน้าประมาณเดือนที่แล้วตนเห็นชายวัยกลางคนขับรถยนต์แต่งตัวดีเข้ามาหาหลวงพ่อตีสนิทกับหลวงพ่อว่าจะมาขอเป็นเจ้าภาพกฐินให้ทางวัด ตอนนั้นตนดูพฤติกรรมชายคนดังกล่าวว่าดูแปลกทำไมมาวัดแทบทุกวัน และยังมาขอนาฬิกาโบราณของหลวงพ่อว่าจะเอาไปซ่อมให้ตนไม่เห็นด้วย ยังเตือนหลวงพ่อไปเลยว่าหลวงพ่อชายคนนี้ดูพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ กลัวจะมาหลอกหลวงพ่อ
หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวได้ยืมเงินหลวงพ่อไปเป็นจำนวนเงิน 650,000 บาท หลังจากได้เงินไปติดต่อไม่ได้อีกเลย และเมื่อวานนี้ตนเห็นหลวงพ่อมีอาการซึมเศร้า และหลวงพ่อยัง พูดว่าอยากตาย ตนยังห้ามหลวงพ่อไว้เลยและตนยังเขียนฝาผนังเตือนสติหลวงพ่อว่ารู้หน้าแต่เว้นเอาไว้เพื่อเตือนสติ หลวงพ่อยังบอกว่าดีเลย และมาทราบอีกทีช่วงเช้าว่าหลวงพ่อผูกคอมรณภาพแล้ว ซึ่งตนกเสียใจ ส่วนเงินที่หลวงพ่อให้ชายคนดังกล่าวไปนั้นเป็นเงินที่ยืมจากชาวบ้านมา เอาไปให้คนร้าย ส่วนคนร้ายเท่าที่ทราบเป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี อ้างตัวว่าเป็นผู้รับเหมา มีฐานะร่ำรวย และยังเป็นคนขายลอตเตอรี่
ทางด้านนายประดิษฐ์ สังขจาย ส.ส.เขต 5 เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจึงได้เดินทางมาที่วัดมาทราบข่าวว่าหลวงพ่อท่านได้ผูกคอมรณภาพแล้ว ส่วนหลวงพ่อท่านเป็นพระที่ดีพัฒนาวัด สาเหตุเกิดจากการถูกหลอกจากชายสูงอายุว่าจะมาเป็นเจ้าภาพทอดกฐินจนถูกยืมเงินไปเป็นจำนวนมาก และติดต่อไม่ได้ ซึ่งการกระทำถือว่าเป็นบาป หลอกได้แม้กระทั่งพระ ต่อมาทางกรรมการวัดได้มีการประชุม ถึงเรื่องการจัดกฐิน วันที่ 27 ตุลาคม จะดำเนินการต่อและจะทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพหลวงพ่อในวันที่ 21 ตุลาคม สวดเป็นเวลา 9 วัน จนถึงวันที่ 30 ตุลาคมจะมีพิธีฌาปนกิจหลวงพ่อ
พนักงานสอบสวนจึงได้ถ่ายรูปจุดเกิดเหตุไปเป็นหลักฐาน ก่อนจะให้ทางเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา นำร่างพระภิกษุสงฆ์ส่งชันสูตรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดปทุมธานีต่อไป
