บุรีรัมย์ - ญาติต้องจัดทั้งงานศพและทอดกฐินที่วัดพร้อมกันตามคำสั่งเสียของตาวัย 72 ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ที่ตั้งใจเป็นเจ้าภาพงานบุญทอดกฐินประจำปีของวัดหนองเสม็ด เสียชีวิตก่อนถึงวันงานเพียง 2 วัน หลวงพ่อเผยคนตายถวายเงินกฐินตั้งต้นเพื่อบูรณะวัดไว้ก่อนจะเสียชีวิต 450,000 บาทแล้ว
วันนี้ (20 ต.ค. 67) บรรยากาศที่วัดหนองเสม็ด อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีการจัดทำบุญทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2567 ก็ได้มีการขึ้นป้ายไวนิลขนาดใหญ่ข้อความว่า “ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ วัดหนองเสม็ด ต.นางรอง อ.นางรอง ในวันที่ 19 และ 20 ตุลาคม 2567 ที่บริเวณหน้าวัดทั้งสองฝั่ง ทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ แต่รูปที่ปรากฏในป้ายซึ่งเป็นเจ้าภาพและประธานต้นกฐิน คือ นางอุบล คุณขุนทด อายุ 62 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมาด้วยโรคมะเร็ง และนายมรุเดช คุณขุนทด หรือลุงมล อายุ 72 ปี ผู้เป็นสามี ก็ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 67 ที่ผ่านมาด้วยอาการปวดท้องและโรคชรา ก่อนจะถึงงานบุญกฐินเพียง 2 วันเท่านั้น
ทำให้ทางครอบครัวและญาติของทั้งสองสามีภรรยาที่เป็นประธานต้นกฐินที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ต้องทำตามคำสั่งเสียของทั้งคู่คือสานต่อในการเป็นเจ้าภาพงานบุญกฐินที่วัดหนองเสม็ด ขณะเดียวกันญาติก็ต้องจัดงานศพนายมรุเดช หรือคุณตามล ที่ศาลาอีกหลังภายในวัดเดียวกันด้วยความโศกเศร้า
นางเฉลา จันทร์ดอน อายุ 69 ปี น้องสาวตามล ผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า พี่ชายเตรียมที่จะเป็นเจ้าภาพงานบุญกฐินของวัดหนองเสม็ด มีการจองไว้ข้ามปี เพราะเขาอยากทำตามเจตนารมณ์ของภรรยาที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ด้วย แต่ที่ผ่านมาพี่ชายก็มักจะมีอาการเจ็บป่วยเข้า-ออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ ญาติพี่น้องก็ให้กำลังใจกันตลอด เพราะอยากให้พี่ได้ทำตามที่ตั้งใจ แต่ตอนที่เข้าโรงพยาบาลครั้งล่าสุดพี่ชายเหมือนจะรู้ตัวว่าน่าจะอยู่ไม่ถึงวันทอดกฐิน ก็จะสั่งเสียเอาไว้ว่าถ้าเป็นอะไรไปก็อยากให้สานต่อในการทำบุญทอดกฐินที่วัดแห่งนี้ให้ได้
ทางพี่น้องและครอบครัวจึงได้ทำตามที่พี่ชายสั่งเสีย ขณะเดียวกันก็ต้องจัดงานศพให้กับตามล พี่ชายที่เสียชีวิตที่วัดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน โดยหลังจากทอดกฐินเสร็จวันนี้ 20 ต.ค. 67 ก็จะฌาปนกิจศพพี่ชายในวันจันทร์ที่ 21 ต.ค. 67
ด้านพระครูวาปีญาณวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดหนองเสม็ด บอกว่า เริ่มแรกผู้เป็นภรรยา เคยมาบอกไว้ก่อนจะเสียชีวิตว่าอยากจะเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่วัดนี้ แต่ก็เสียชีวิตก่อน ต่อมาตามล ผู้เป็นสามี ซึ่งปกติก็จะขับรถพาเจ้าอาวาสไปไหนมาไหนตลอด ก็มาบอกกับหลวงพ่อไว้ว่าอยากจะทำตามเจตนารมณ์ของภรรยาที่เสียชีวิต คือเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่วัดนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยังไปไหนมาไหนได้ตามปกติก็จะมีบ่นปวดท้องบ้างแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร หลวงพ่อก็ยังบอกให้ไปหาหมอ แต่เจ้าตัวก็บอกว่าไม่เป็นอะไรซื้อยามากินก็หาย แต่ก็เห็นเข้ารักษาที่โรงพยาบาล 2 ครั้ง
แต่ครั้งล่าสุดช่วงที่ออกจากโรงพยาบาล ตามลก็ได้ไปเบิกเงินที่ธนาคารแล้วนำมาถวายให้หลวงพ่อ บอกว่าเป็นเงินต้นกฐินที่ตั้งใจทอดถวายเพื่อบูรณะวัด ก็ถวายไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 450,000 บาท หลวงพ่อก็ยังถามว่าแล้วมีความประสงค์อยากจะให้บูรณะอะไรบ้าง ตามลก็บอกว่าแล้วแต่หลวงพ่อ ก็เลยบอกไปว่างั้นหลวงพ่อจะบูรณะซ่อมแซมกุฏิ และจะทำที่เก็บอัฐิไว้ด้วย ตามลก็บอกว่าดีเหมือนกันหลวงพ่อ เผื่อเขาเป็นอะไรไปจะได้นำอัฐิทั้งของตามล และภรรยามาเก็บไว้ตรงนี้ด้วยกัน ก็ไม่คิดว่าตามลจะเสียชีวิตก่อนจะถึงงานกฐินก็เสียใจต่อครอบครัว
อย่างไรก็ตาม การเกิดแก่เจ็บตายก็เป็นเรื่องธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ส่วนที่เขาตั้งใจทำบุญทอดกฐินก็เป็นการสั่งสมบุญกุศล ก็เป็นสิ่งที่ดี
