เชียงราย - สะเทือนใจกันทั่ว..พบหนึ่งในเหยื่อดิไอคอนชาวเชียงรายสูญเงินลงทุนย่อยยับรวมหลายล้าน ต้องขายบ้าน-ขายรถหลายคัน ครอบครัวแตกสลาย ลูกสาวต้องหยุดเรียนกลางคัน ผู้เป็นพ่อต้องไปอาศัยวัดอยู่ สุดท้ายเครียดคิดสั้นแขวนคอตายสังเวย
พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้สั่งการย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละสถานีทั่วเชียงรายเปิดจุดรับแจ้งความให้ผู้เสียหายกรณีคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดจนถึงวันนี้ (19 ต.ค.) ทั้งจังหวัดมีผู้เสียหายแล้ว 62 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 18 ล้านบาท
เฉพาะ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย มีผู้เดินทางไปแจ้งความแล้ว 10 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกันประมาณ 4.2 ล้านบาท เป็นผู้เสียหายที่แจ้งความทางออนไลน์ 3 ราย เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน 7 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชายอายุ 56 ปี ได้รับความเสียหายมากที่สุดกว่า 3.5 ล้านบาท จนต้องขายบ้าน-ขายรถ ทำให้ครอบครัวแตกแยกเป็นเหตุให้ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นหัวหน้าครอบตัวเครียด-คิดสั้น แขวนคอตายที่วัดใกล้บ้านของตัวเองมาแล้ว
ขณะที่นายไก่ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ลูกชายของผู้เสียหายที่คิดสั้นแขวนคอตายดังกล่าว ระบุว่า พ่อนำเงินไปลงทุนกับธุรกิจของดิไอคอนตั้งแต่ปี 2560 เคยถ่ายภาพคู่กับบอสพอลและทำกิจกรรมต่างๆ กับบริษัทมากมาย สุดท้ายก็ขาดทุน จากที่เคยมีเงินเก็บ-มีรถยนต์ถึง 3 คัน ปรากฏว่าทรัพย์สินเริ่มหมดลง ทะเลาะวิวาทกับคนในครอบครัว เกิดปัญหาทางการเงินและน้องสาวของตนไม่สามารถเรียนต่อได้
สุดท้ายพ่อกับแม่ตนถึงขั้นหย่าร้างกัน พ่อต้องไปอาศัยอยู่กับพระที่วัดใกล้บ้าน ก่อนจะก่อเหตุแขวนคอเสียชีวิตเมื่อเดือน เม.ย. 2563 ในที่สุด ซึ่งขณะนั้นตนยังเรียนหนังสืออยู่จึงไม่ทราบเรื่องราวละเอียดมากนัก กระทั่งเกิดกรณีดิไอคอนทำให้ตนเริ่มรับรู้ว่าพ่อเคยไปลงทุนกับบริษัทนี้ จึงเริ่มรวบรวมหลักฐานและเข้าไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความในพื้นที่ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
พ.ต.อ.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ ผกก.สภ.บ้านดู่ กล่าวว่า ตามคำสั่งของ ตร.และ ผบช.ภ.5 รวมถึง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ตำรวจทุกสถานีได้เปิดศูนย์รับแจ้งความเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนไม่ต้องเดินทางไปแจ้งความที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดยแต่ละโรงพักได้จัดพนักงานสอบสวนเพื่อรับเรื่องอย่างเต็มที่
