ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองผู้ว่าฯ ชลบุรี ลงพื้นที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครแหลมฉบัง หลังมีผู้ร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็น น้ำเสีย พร้อมประสานเทศบาลวางมาตรการดูแลให้เข้มงวดเพราะอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ย้ำหากจะแก้ไขปัญหาให้สิ้นสุดต้องหาพื้นที่ใหม่
วันนี้ (18 ต.ค.) นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครแหลมฉบัง แบบฝังกลบ (บ่อขยะเขาขยาย) หมู่ 8 ต.บึง หลังมีประชาชนร้องเรียนไปยังกระทรวงมหาดไทย โดยมีนางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง นายอาคมเจตน์ พันเฉลิมชัยโชค นายกเทศมนตรีนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ชลบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ 13 (ชลบุรี) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชลบุรี ร่วมประชุมในครั้งนี้ ที่ห้องประชุมเทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีร้องเรียนไปยังกระทรวงมหาดไทย ใน 3 เรื่องหลัก คือ 1.เรื่องการจัดการขยะให้ถูกสุขลักษณะสุขาภิบาล 2.การใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ของราชพัสดุ ที่กรมธนารักษ์ดูแล และ 3.มีการลักลอบนำขยะจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตมาทิ้งในศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครแหลมฉบัง
นายชัยพร กล่าวว่า หลังได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบ พบว่า เรื่องการกำจัดขยะมูลฝอยนั้นมีปัญหาบ่อยครั้ง และทางเทศบาลและมีการแก้ไขมาโดยตลอด ซึ่งทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ 13 (ชลบุรี) ลงมาตรวจสอบพร้อมให้คำแนะนำ ซึ่งทางเทศบาลรับไปดำเนินการเพื่อแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น และนอกจากนั้นทางเทศบาลได้ว่าจ้างให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการจัดเก็บขยะ ว่าปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เทศบาลกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดหรือไม่ โดยจะต้องให้ด้านเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมมาตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนปัญหาเรื่องที่ดินสาธารณประโยชน์ของราชพัสดุ ที่กรมธนารักษ์ควบคุมดูแล ซึ่งทางเทศบาลยังไม่ได้ขอใช้เป็นพื้นที่ฝังกลบขยะนั้น โดยจากการตรวจสอบแล้วพบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวมีข้อขัดข้องในการขอใช้ประโยชน์ ตั้งแต่ปี 2542 ล่าสุด กรมธนารักษ์ ได้อนุญาตให้เทศบาลใช้ที่ดินแปลงดังกล่าวได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในเขตผังเมืองในพื้นทีโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยจะต้องสอบถาม EEC ให้แน่ชัดก่อนว่าสามารถจัดตั้งศูนย์กำจัดขยะได้หรือไม่
นายชัยพร กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องที่มีบริษัทเอกชนลักลอบนำขยะจากโรงงานอุตสาหกรรมมาทิ้งนั้น จากการตรวจสอบแล้ว เกิดจากความเข้าใจผิด ซึ่งในความเป็นจริงทางเทศบาลได้ว่าจากบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการกำจัดขยะโดยถูกต้อง ใน 6 โซนจากชุมชน แต่ถ้านอกเหนือในพื้นที่ที่กำหนดไว้ต้องยกเลิก
สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น ซึ่งมีการพูดคุยในคณะทำงานทั้งเทศบาลนครแหลมฉบัง และเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ พบว่าศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครแหลมฉบังนั้นอยู่ในพื้นที่ใกล้แหล่งชุมชน โดยควรจะปรับปรุงการกำจัดขยะที่ทันสมัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน หรือ หาที่ดินแห่งใหม่ที่อยู่ไกลจากแหล่งชุมชน ซึ่งจะต้องมีการวางแผนในอนาคตต่อไป
