xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภ.7 แถลงรวบแก๊งลักรถ จยย.โดยใช้แอปพลิเคชันในการโจรกรรม พื้นที่นครชัยศรีและพื้นที่ภาค 7

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำทีมตำรวจนครชัยศรี ชุดคลี่คลายคดีรวบแก๊งลักรถจักรยานยนต์ใช้วิธีการใหม่หลอกรถตู้ทึบผ่านแอปพลิเคชันรับของส่งแก๊งรับซื้อขายตลาดมืด โดยได้ของกลางรถจักรยานยนต์หลายคัน พร้อมผู้ต้องหาเป็นขบวนการหลายคน เตรียมขยายผลหาต้นทางดำเนินคดี

วันนี้ (15 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดคลี่คลายคดี แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีลักรถจักรยานยนต์และซื้อขายในตลาดมืด โดยได้ผู้ต้องหา 3 ราย และของกลางหลายรายการ โดยเป็นรูปแบบการหลอกเหยื่อรูปแบบใหม่โดยผ่านแอปพลิเคชันในระบบออนไลน์

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยว่า ในการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 21.30 น.ได้มีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ของประชาชน ที่ด้านหน้าบริษัท บูโอโน่ ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จำนวน 2 คัน สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายให้ประชาชนในพื้นที่ ทางตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และลดความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่

ต่อมา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 สภ.นครชัยศรี ได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุ จำนวน 1 ราย คือ นายธนัต หรือทอป อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร โดยแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ปัจจุบันประกอบอาชีพขับรถรับจ้างขนส่งของบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่ง และเป็นผู้ครอบครองรถยนต์กระบะที่ใช้ในการก่อเหตุ ไม่มีประวัติคดีอาญา

โดยนายธนัต เป็นผู้ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบมาใส่รถจักรยานยนต์ที่ลักบริเวณ ฝที่เกิดเหตุ ไปส่งให้ นายพลกฤษณ์ ที่บ้านพักของนายพลกฤษณ์ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี ได้ทำการสืบสวนขยายผล จับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้อีก 2 ราย คือ

1.น.ส.พรรณราย หรือนุช อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ โดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพ ไม่มีประวัติคดีอาญา โดยก่อนเกิดเหตุ น.ส.พรรณราย ได้ติดต่อกับ นายพลกฤษณ์์ ผู้รับซื้อเกี่ยวกับเรื่องรถจักรยานยนต์ โดยมีการเปิดเพจรับซื้อรถจักรยานยนต์ผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊ก โดยประกาศรับซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งที่มีคู่มือจดทะเบียนและไม่มีคู่มือจดทะเบียน จากนั้น น.ส.พรรณราย ได้ตระเวนหารถจักรยานยนต์เป้าหมายถ่ายรูปส่งไปให้ นายพลกฤษณ์ เพื่อทำเอกสารปลอมขึ้นมาและส่งให้ น.ส.พรรณราย ใช้แสดงกับผู้รับจ้างขนส่ง เมื่อถึงวันเวลาก่อเหตุ นายพลกฤษณ์ ได้เรียกรถกระบะตู้ทึบผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่งมารับรถที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.พรรณราย มาชี้เป้าหมายรถจักรยานยนต์ที่จะลักเอาไป โดยในวันที่เกิดเหตุ มีนายธนัต ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบมารับงานขนรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักไปส่งให้นายพลกฤษณ์

2.นายพลกฤษณ์ หรือต้อม อายุ 34 ปี ภูมิลำเนา อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี โดยแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร ปัจจุบันประกอบอาชีพรับซื้อขาย รับจำนำรถจักรยานยนต์ทั้งที่มีคู่มือจดทะเบียนและไม่มีคู่มือจดทะเบียน ผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก มีประวัติคดีอาญา จำนวน 1 คดี ข้อหาผู้ขับขี่รถขณะเมาสุรา ที่ สน.พหลโยธิน บก.น.2 เมื่อปี 2565

ก่อนเกิดเหตุ นายพลกฤษณ์ มีการเปิดเพจรับซื้อรถจักรยานยนต์ผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊ก โดยประกาศรับซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งที่มีคู่มือและไม่มีคู่มือจดทะเบียน ต่อมา ได้มี น.ส.พรรณราย ติดต่อมา และหารถจักรยานยนต์เป้าหมายถ่ายรูปส่งไปให้ นายพลกฤษณ์ เพื่อทำเอกสารปลอมขึ้นมาและส่งให้ น.ส.พรรณราย ใช้แสดงกับผู้รับจ้างขนส่ง เมื่อถึงวันเวลาก่อเหตุ นายพลกฤษณ์ ได้เรียกรถกระบะตู้ทึบผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่วมารับรถที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.พรรณราย มาชี้เป้าหมายรถจักรยานยนต์ที่จะลักเอาไป โดยในวันที่เกิดเหตุ มีนายธนัต ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบมารับงานขนรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักไป ส่งให้นายพลกฤษณ์ฯฝ

และวันที่ 5 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้นศาลอาญา เข้าค้นบ้านเลขที่ 133 ถ.ลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร บ้านพักของนายพลกฤษณ์ พบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ภายในบ้านพักจำนวน 16 คัน เมื่อตรวจสอบแล้ว รถจักรยานยนต์ดังกล่าวมีเอกสารไม่ครบถ้วน โดยนายพลกฤษณ์ ได้อ้างว่ารับจำนำมาจากบุคคลอื่น และยังพบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารข้อมูลจดทะเบียน และข้อมูลบัตรประชาชน ของเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 3 ราย และยึดรถจักรยานยนต์ 16 คัน โดยจะมีการขยายผลในการจับกุมเพื่อหาต้นตอของขบวนการต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น