อุดรธานี - เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” พาเหยื่อถูกหลอกลงทุนกับ “ดิไอคอน” แจ้งความตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ผู้เสียหายเปิดใจทุ่มนำที่ดินจำนองกว่า 5 แสนบาท ลงทุนเปิดดีลเลอร์ หวังเป็นเสือนอนกิน สุดท้ายสินค้าขายไม่ได้ ซ้ำยังต้องหาเงินมาตัดดอกที่ดินจำนองทุกเดือน
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” พาผู้เสียหาย 8 คนที่ร่วมลงทุนกับ “ดิไอคอนกรุ๊ป” มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 6,000,000 บาท เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ดิษฐวัฒน์ ถาวรสินพงศ์ รอง ผกก.สอบสวน รักษาการ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท ผู้เสียหายส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจ ข้าราชการเกษียณ พ่อค้าแม่ค้า ช่างทำผม เดินทางมาแจ้งความ
พี่สมใจ อายุ 70 ปี แม่ค้าขนมไทย เล่าว่า ก่อนจะเริ่มลงทุนตนไม่รู้จัก แต่พี่สาวกับป้าเริ่มลงทุนก่อน จากนั้นแม่ทีมเลยได้ชักชวน ซึ่งตอนนั้นแม่ทีมได้ชักชวนว่า ธุรกิจนี้มีรายได้ดี ลงทุนเงินเพียงครั้งเดียวไม่ต้องทำอะไรเราจะมีเงินเข้ามาตลอด ดูแลถึงลูกหลาน ตนก็เชื่อว่าธุรกิจนี้ดี ประกอบกับแม่ข่ายนำภาพบอสพอล และผู้ที่ประสบความสำเร็จ ได้ทั้งเงินทั้งรถหรู จึงหลงเชื่อลงทุนไป
ตอนนั้นตนลงทุนไป 250,000 บาท ลูกสาวอีก 250,000 บาท รวมเป็น 500,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ตนเอาที่ดินมรดกไปจำนองไว้กับนายทุนนอกระบบ ตนก็เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่ แต่แล้วสินค้าที่ตนสั่งมาขายก็ไม่สามารถขายได้ เอาไปขายก็ไม่มีใครซื้อ บางคนว่าแพง บางคนว่าไม่รู้จัก จนต้องตกเป็นหนี้สินตอนนี้เม็ดฟู่ยังเหลือ 15 ลังและกำลังจะหมดอายุ ที่ดินที่ไปจำนองไว้ ก็ต้องหาเงินมาผ่อนและจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 5,000 บาท
พ.ต.ท.ดิษฐวัฒน์ ถาวรสินพงศ์ รอง ผกก.สอบสวน รักษาการ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า ผู้เสียหายคดีหลอกลวงขายทองรูปพรรณของ น.ส.กรกนก-นายกานต์พล และกรณีขายตรงของบริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” สามารถติดต่อนำหลักฐานเข้าแจ้งความได้ 3 ช่องทาง ดังนี้ 1. เดินทางเข้ามาแจ้งด้วยตัวเองได้ที่ “ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน (บก.ปคบ.)” ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ (ตึกกองปราบฯ) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 17 ต.ค. 2567 เวลา 09.00-16.00 น.
2. แจ้งความที่สถานีตำรวจ (สน./สภ.) ใดก็ได้ โดยพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำ รวบรวมความเสียหาย และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ลงบันทึกข้อมูลในระบบ เพื่อให้ได้เลขแจ้งความ (Case ID) เพื่อส่งมายัง บก.ปคบ.เพื่อดำเนินการต่อไป 3. แจ้งความผ่านระบบออนไลน์ ทาง www.thaipoliceonline.go.th ซึ่งหลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำ และส่งเอกสารมายัง บก.ปคบ.เพื่อดำเนินการต่อไป
