xs
xsm
sm
md
lg

เจออีก! ผู้เสียหายจาก "ดิไอคอน กรุ๊ป" ลุงวัย 66 ปีใน จ.ชลบุรี สูญเงินครึ่งล้านเพราะหลงเชื่อศิลปินยุค 90

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​ - เจออีก! ผู้เสียหายจาก "ดิไอคอน กรุ๊ป" ลุงวัย 66 ปีใน จ.ชลบุรี พร้อมลูกชายหลงเชื่อศิลปินยุค 90 ชักชวนลงทุนจนสูญเงินลงทุนครึ่งล้าน สุดท้ายได้ผลตอบแทนแค่พันกว่าบาทเหตุสินค้าขายไม่ได้จนต้องขนบริจาคคนชรา ส่วนอีกรายเป็นหนุ่มโรงงานขนหลักฐานให้ตำรวจ

จากกรณีที่มีผู้เสียหายหลายร้อยคนทยอยเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับบริษัทขายตรง ดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ขณะที่กลุ่มผู้บริหารได้เดินทางเข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และยังมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้เสียหายจะมากขึ้นเรื่อยๆ จนสำนักงาน​ตำรวจ​แห่งชาติ ต้องมอบหมายให้ตำรวจทุกพื้นที่รับแจ้งความ เพื่อเป็นการบรรเทา​ความเดือดร้อน​นั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี​ ได้มีผู้เสียหายจำนวน 2 ราย เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ เพื่อขอคำแนะนำและแจ้งความดำเนินคดีบริษัทขายตรงดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยรายแรกคือ นายสุพี อายุ 66 ปี ที่เดินทางมาพร้อมลูกชาย

บอกว่าช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา นายสุพี มีความสนใจที่จะทำธุรกิจขายตรงผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป หลังรู้จักธุรกิจดังกล่าวผ่านศิลปินนักร้องยุค 90 ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-เยอรมัน กระทั่งตัดสินใจร่วมลงทุนและสมัครเป็นดีลเลอร์ ด้วยการเปิดบิลสินค้า 25,000 บาท แต่ถูกหว่านล้อมและชักจูงให้ลงทุนเพิ่มอีก 250,000 บาท จนสุดท้ายทั้งตนและลูกชายต้องสูญเงินลงทุนรวมกว่า 500,000 บาท

"ตอนแรกคิดว่าจะต้องได้ผลตอบแทนอย่างแน่นอนเนื่องจากมีบุคคลทั้งดาราศิลปินมากมายโชว์ภาพการได้ผลกำไรตอบแทน ทั้งบ้านหลังใหม่มูลค่ากว่า 20 ล้าน และยังสามารถสร้างผลกำไรได้กว่า 5 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 17 เดือน โดยระบุว่าเป็นการขายของออนไลน์กับ ดิไอคอนกรุ๊ป จนทำให้เกิดความหลงเชื่อและเกิดความเชื่อถือในกลุ่มดาราและศิลปินที่ร่วมโปรโมต"



นายสุพี วัย 66 ปี ยังบอกอีกว่าตนยังเคยเข้าร่วมการประชุมที่มีการนำรถซูเปอร์คาร์หลาย 10 คันมาจัดแสดง และยังได้ร่วมรับประทานอาหารกับศิลปินยุค 90 คนดังกล่าว กระทั่งเกิดตายใจและพยายามหาสมาชิกใหม่เพิ่มในสายงานแต่สุดท้ายไม่สามารถหาสมาชิกได้แม้แต่รายเดียว

"ต่อมาเริ่มเข้าใจว่า ระบบธุรกิจของบริษัทแห่งนี้เป้าหมายหลักไม่ใช่การจำหน่ายสินค้า แต่รายได้เกิดจากการหาสมาชิกที่จะมาสมัคร​เป็นดีลเลอร์ เพราะหลังจากที่ได้รับสินค้ามาไม่สามารถขายสินค้าได้เพราะสินค้าแต่ละชิ้นมีราคาที่สูง สุดท้ายต้องนำไปบริจาคให้คนชรา อีกทั้งเราเองไม่อยากให้บุคคลอื่นตกเป็นเหยื่อ และเมื่อรู้ว่ามีการแฉถึงพฤติกรรม​ของบริษัทดังกล่าวรู้สึกดีที่ประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลที่แท้จริง" นายสุพี กล่าว


ส่วนอีกรายคือ นายนพมงคล อายุ 48 ปี พนักงานโรงงาน บอกว่าว่าตนและพี่สาวตกหลุมพรางการลงทุนจนสูญเงินกว่า 500,000 บาท และถึงแม้ว่าจะได้ผลกำไรกลับคืนประมาณ 50,000 บาท แต่สินค้าที่เปิดบิลมากลับไม่สามารถขายได้จนบางชนิดหมดอายุ

"ได้เริ่มลงทุนตั้งแต่ช่วงปี 2564 แต่สุดท้ายต้องเลิกเพราะไม่สามารถหาสมาชิกมาต่อได้ และไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลที่หลอกลวงผู้อื่น ในวันนี้ยังนัดหมายกับผู้เสียหาย​รายอื่นเพื่อที่จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหลังจากนี้อาจจะต้องเดินทางไปร้องเรียนสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ด้วย"

นอกจากนั้น นายนพมงคล ยังได้นำคลิปวิดีโอที่มีวิทยากรซึ่งเป็นดีลเลอร์ของบริษัทดังกล่าวขณะกำลังสอนกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมในการทำธุรกิจขายตรง และโฆษณาถึงการประสบความสำเร็จจนมีผลตอบแทนอย่างงาม รวมทั้งเอกสารหลักฐานในการสั่งซื้อสินค้าของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป และภาพถ่ายกับกลุ่มผู้ร่วมลงทุน ขณะรับประทานอาหารกับศิลปิน มอบให้เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นหลัก​ฐาน​ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น