พิษณุโลก – รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วม”บางระกำโมเดล” สส.เสนอแก้ปัญหา จะต้องจัดพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยมฝั่งขวา อยู่ในเขตชลประทาน บรรเทาน้ำท่วม-น้ำแล้ง พร้อมยกถนนหนีน้ำท่วม ไม่ให้ชาวบางระกำผู้เสียสละกว่า 1,600 ครอบครัวถูกน้ำขังนานนับเดือน
วันนี้ (12 ต.ค.)นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี, ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำยม- น่าน หรือทุ่งบางระกำ แหล่งรับน้ำ ที่วัดพรหมเกสร ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยจำนวน 500 ชุด
โดยมีนางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ ส.ส. เขต 4 (บางระกำ-บางกระทุ่ม), นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส. เขต 2 (พรหมพิราม), นายจเด็จ จันทรา ส.ส.เขต 1 (เมือง)จากพรรคเพื่อไทยทั้งหมดให้การต้อนรับ พร้อมกับ นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าฯพิษณุโลก นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าฯพิษณุโลกและนายอำเภอบางระกำและนายอำเภอพรหมพิรามพร้อมผู้นำท้องถิ่นและท้องที่
ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 3 รายงานสถานการณ์อุทกภัยน้ำภาพรวม แม่น้ำน่านระดับน้ำลดลง เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำเก็บกัก 95% ระบายน้ำวันละ 4.91 ล้าน ลบ.ม/วัน เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปริมาณน้ำเก็บกัก 81% สถานการณ์ปกติ
ขณะที่แม่น้ำยมสายหลัก ไหลผ่าน อ.บางระกำ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง เนื่องจากฝนตกหนักภาคเหนือและมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำสาขาของแม่น้ำยมในพื้นที่ฝั่งขวา ไหลหลากลงมาสมทบแม่น้ำยมสายหลักเรื่อยๆ ส่วนแม่น้ำยมสายเก่าที่ไหลผ่าน อ.พรหมพิราม อ.เมือง ลงมา อ.บางระกำ ปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลายหน่วยงานกำลังเร่งซ่อมแซมเสริมคันป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่ง
สำหรับพื้นทุ่งหน่วงน้ำตามโครงการบางระกำโมเดล รองรับน้ำหลากหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว ฝั่งซ้ายแม่น้ำยม เก็บเกี่ยวแล้ว 100 % มีปริมาณน้ำที่รับเข้าทุ่งหน่วงน้ำเกินศักยภาพ 400 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้อยู่ที่ 572 ล้าน ลบ.ม หรือ คิดเห็น 143% (210,741 ไร่) เนื่องจากปีนี้ปริมาณน้ำลุ่มน้ำยมมาก น้ำท่วมเส้นทางสัญจร และระบายออกได้ช้า เพราะแม่น้ำน่านอยู่ในระดับสูง คาดว่า จะผันผ่านคลองยมน่านและประตูระบายน้ำ DR 2.8 ช่วงต้นเดือน พฤศจิกายน 2567 ทุ่งบางระกำจึงจะคลี่คลายลง
ด้านนางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ สส. เขต 4 พรรคเพื่อไทย นำเสนอต่อชาวบ้านที่ประสพภัยน้ำท่วมว่า จะเสนอผ่านรองนายกฯถึงรัฐบาล ให้พื้นที่ลุ่มน้ำยมฝั่งขวา อยู่ในเขตชลประทาน เหมือนกับแม่น้ำยมฝั่งซ้าย เพื่อจะได้บริหารจัดการลุ่มน้ำยมทั้งระบบ แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างยั่งยืน มีประตูระบายน้ำบังคับแต่จะจุด พร้อมยกถนนให้สูงเพื่อการสัญจรโดยสะดวก
ทั้งนี้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เคยเดินทางมาหาเสียงที่บางระกำ เพื่อช่วย สส.เขต แถมยังพลาดตกเวที วันนี้จึงมาบางระกำซ้ำอีกครั้ง ขอบคุณชาวบางระกำผู้เสียสละ เป็นจุดรองรับน้ำ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำ แต่ขอยืนยันจะเร่งระบายน้ำ ไม่ให้น้ำขังที่ อ.บางระกำนานเกินไป
“ตนเห็นพื้นที่แม่น้ำยมฝั่งขวา ท่วมบ้านบ้านเรือนสูง ซึ่งที่ทำให้คือเร่งระบายให้เร็ว จะต้องทำคันกั้นนำ และประตูน้ำต่างๆ ซึ่ง สทนช.และชลประทาน กำลังวางแผนระยะสั้นๆระยะกลาง อะไรต้องทำก่อน-หลัง พร้อมทำแผนรวมเพื่อแก้ไขอย่างยั่งยืน ไม่อยากให้น้ำท่วมเกิน 2 เดือน ส่วนชาวบ้านบางระกำ ต้องได้รับการเยียวยาพบว่ามีจำนวน 1,600 ครัวเรือนเศษ รัฐบาลพร้อมจ่ายทันทีหลังละ 9,000 บาทโดยไม่ต้องสนเงื่อนไขระยะเวลาน้ำท่วมมากนัก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี พบปะและมอบถุงยังชีพชาว ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ ที่ วัดพรหมเกสร ได้เดินทางต่อไปยังอ.สามง่าม จ.พิจิตร เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่อไปด้วย
