เชียงใหม่ - ชาวบ้านเชียงใหม่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมโอดครวญหนัก เพิ่งได้รับเงิน 10,000 บาทช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางจากรัฐบาลไม่กี่วัน แต่ต้องหมดเกลี้ยงไปในพริบตาหลังโดนน้ำท่วมบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายจนต้องนำไปใช้จ่ายเป็นค่าซ่อมแซมและฟื้นฟู
วันนี้ (9 ต.ค.67) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตตัวเมืองเชียงใหม่และในพื้นที่อำเภอแม่ริม ระดับน้ำที่ท่วมได้คลี่คลายลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายและดินโคลนทับถมเป็นจำนวนมากทั่วพื้นที่ โดยประชาชนต่างเร่งทำการเก็บกวาดฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนและร้านค้าของตัวเอง ซึ่งคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาหลายวันหรือนานหลายสัปดาห์กว่าจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะนอกจากตัวอาคารที่ได้รับความเสียหายเต็มไปด้วยคราบดินโคลนและต้องซ่อมแซมแล้ว ยังมีทรัพย์สินและข้าวของอีกหลายอย่างที่เสียหายจนใช้งานไม่ได้ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ หรือที่นอน ซึ่งแทบจะกลายเป็นเศษซากขยะ หลายบ้านต่างนำออกไปวางทิ้งไว้ข้างถนนและพบเห็นได้ทั่วไป
จากการลงพื้นที่บ้านห้วยโจ้ ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมอย่างหนักถึง 4 ครั้งในระยะเวลาเพียง 1 เดือน เบื้องต้นพบว่าประชาชนในพื้นที่ยังคงต้องทำการเก็บกวาดทำความสะอาดพื้นที่และข้าวของ รวมทั้งซ่อมแซมบ้านของตัวเองที่ได้รับความเสียหาย โดยพบว่าหลายรายรู้สึกหมดกำลังใจที่ต้องประสบภัยติดๆ กันหลายครั้ง ในแบบที่เพิ่งเก็บกวาดทำความสะอาดฟื้นฟูเสร็จยังไม่ทันหายเหนื่อยก็เกิดเหตุซ้ำอีกจนไม่ทันได้พัก และแต่ละครั้งต่างจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยในการเก็บกวาดทำความสะอาดฟื้นฟูและซ่อมแซมบ้านด้วย
นายอมร มาทอง อายุ 61 ปี ชาวบ้านห้วยโจ้ เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับเงิน 10,000 บาทจากรัฐบาลในฐานะกลุ่มเปราะบาง ซึ่งตอนแรกดีใจที่จะได้เงินมานำไปใช้จ่ายเป็นค่าอาหาร และใช้ในยามจำเป็นของครอบครัว เพราะเงินจำนวนนี้น่าจะช่วยประทังชีวิตไปได้หลายเดือน อย่างไรก็ตาม จากเหตุน้ำป่าไหลหลากที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 4 ครั้งต่อเนื่อง ทำให้ต้องหมดเงินดังกล่าวไปกับการซ่อมแซม ทำความสะอาดบ้าน รวมทั้งนำไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แทนของเดิมที่เสียหายหมด แต่มองในแง่บวกตัวเองยังโชคดีกว่าอีกหลายครอบครัวที่ไม่ได้รับเงินก้อนนี้ และต้องไปหยิบยืมหรือกู้เงินมาซ่อมแซมบ้าน